WE ARE THE BLOGKER

November 26, 2018
1736
บอกเล่าประสบการณ์เข้าร่วมงานแข่งควงปากการะดับโลก โดย coffeelucky

รีวิว
สรุป

เมื่อวันที่ 12-17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ผม coffeelucky ได้มีโอกาสไปร่วมงาน World Pen Spinning Alliance League 2018 การแข่งขันควงปากกาแบบออฟไลน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองกวางตุ้ง ประเทศจีนมา เรียกได้ว่านับเป็นประสบการณ์ดีๆ อย่างหนึ่งในชีวิต จึงอยากจะมาเล่าสุดกันฟัง

เท้าความกันสักหน่อยเพราะหลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก การควงปากกาคืองานอดิเรกอย่างหนึ่ง โดยใช้นิ้วมือทั้ง 5 นั้นออกแรงหมุนหรือควงปากกา โดยมีท่าควงปากกามากมาย และผู้ที่ควงนั้นจะฝึกแต่ละท่า และนำท่าควงปากกาต่างๆ มาประกอบกันเพื่อให้ควงได้ต่อเนื่อง สำหรับในประเทศไทยนั้นมีกลุ่มของผู้ที่ควงปากการวมตัวกันในชื่อ Thaispinner

สำหรับการแข่งขันควงปากการะดับโลกอย่างเป็นทางการนั้น เริ่มขึ้นครั้งแรกในปี 2007 ในชื่อว่า Pen Spinning World Tournament 2007 ซึ่งเป็นการแข่งขันแบบออนไลน์ โดยให้ผู้เข้าแข่งขันอัดคลิปควงปากกาของตนเองความยาวประมาณ 20 วินาที เรียกว่าคอมโบ อัปโหลดลงบนอินเทอร์เน็ต แล้วกรรมการจะตัดสินว่าคอมโบของใครนั้นดีกว่านั้น โดยเกณฑ์การตัดสินหลักๆ จะมี ความยาก, ความคิดสร้างสรรค์ และความสวยงาม ในครั้งนั้นผู้ที่ชนะในครั้งนั้นคือผู้ที่ใช้ชื่อว่า KTH จากประเทศเกาหลีใต้ หลังจากนั้นก็ได้จัดมาตลอดทุกๆ 2 ปี โดยครั้งล่าสุด Pen Spinning World Tournament 2017 นั้นผู้ชนะก็คือผู้ที่ใช้ชื่อว่า Sirapob หรือ มิก สิรภพ จากประเทศไทยนี่เอง

วิดีโอของ Sirapob ในการแข่งขัน Pen Spinning World Tournament 2017 รอบสุดท้าย

 

นอกจากการแข่งขันแบบออนไลน์แล้ว การควงปากกายังมีการแข่งขันแบบออฟไลน์ด้วย แม้จะไม่ได้รับความนิยมมากเท่า เพราะหน่วยงานหรือบริษัทที่พร้อมออกเงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการแข่งขันได้นั้นยังมีค่อนข้างน้อย

แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีงานแข่งใหญ่ในชื่อ WPSAL หรือ World Pen Spinning Alliance League ที่สนับสนุนโดย Guangdong Zhigao Company บริษัทผู้ผลิตแอนิเมชันและของเล่นจากประเทศจีน โดยได้ทำการเชิญเหล่าแชมเปี้ยนในการแข่งขันควงปากกาจากประเทศต่างๆ เข้าร่วมการแข่ง

โดยในปีนี้ ผู้ที่ใช้ชื่อว่า OhYeaH! ได้ชนะการแข่งขันควงปากกาในระดับประเทศ และกลายเป็นแชมป์ประเทศไทย ได้รับเชิญเข้าแข่งในครั้งนี้ ส่วนผม coffeelucky นั้นทาง Zhigao Company ก็ใจดีให้ตั๋วไปเข้าร่วมในฐานะผู้ประสานงานของไทยและกรรมการของการแข่งขัน

 

พวกเราบินออกจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิด้วยสายการบิน Eastern Chinese Airline สู่สนามบินนานาชาติกวางโจวไป๋หยุ่นในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 เพื่อพบกับคุณ Seed ตัวแทนจาก Guangdong Zhigao Company ที่มาพาพวกเราขึ้นรถบัสต่อไปที่กวางตุ้ง สู่โรงแรม Vienna Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่ใกล้กับสถานที่จัดงานมากที่สุด เพียงแค่เดินข้ามสะพานลอยไปก็ถึงอาคารจัดงานได้เลย

 

รูปแบบการแข่งขันของ WPSAL นี้จะแตกต่างจากการแข่งขันควงปากกาทั่วไป ที่ให้ผู้เข้าแข่งขันส่งคลิปวิดีโอควงปากกาของตัวเอง แต่จะกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า Tack-On หรือการแข่งแบบท่าต่อท่า โดยกติกาคือให้ผู้เข้าแข่งขันคนแรกควงท่าควงปากกาอะไรก็ได้ สมมติว่าทำท่า A หลังจากนั้นผู้เข้าแข่งขันคนที่สองจะต้องทำท่า A และต่อด้วยท่าอะไรก็ได้อีกท่าหนึ่ง สมมติว่าชื่อท่า B ย้อนกลับมาที่คนแรกจะต้องทำท่า A ต่อด้วย B และเพิ่มท่าอะไรก็ได้อีก 1 ท่าต่อไปอีก สลับกันไปมาแบบนี้จนยาวขึ้นไปเรื่อยๆ หากใครที่ไม่สามารถท่าทั้งหมดได้ภายในเวลาที่กำหนดก็จะถึงว่าแพ้ตกรอบไป ส่วนหน้าที่กรรมการแบบผมนั้นคือการตรวจดูว่าผู้เข้าแข่งขันทำแต่ละท่าได้ถูกต้องครบถ้วน และคอยดูเวลาไม่ให้เกินกำหนด

วิดีโอส่วนหนึ่งของการแข่งขัน WPSAL2018

 

นอกจากการแข่งขันแล้ว ยังมีงานอย่างอื่นอีก เช่น Stage Performance จาก Kay ตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแสดงหลากหลายอย่าง โดยเจ้าตัวได้นำการควงปากกามาปรับเข้ากับการแสดงบนเวที เป็นการแสดงสั้นๆ ประมาณ 5 นาที หรือจะเป็นการถ่ายทำวิดีโอโปรโมตให้กับสปอนเซอร์ เป็นค่าตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ที่อุตส่าห์จ่ายค่าตั๋วให้พวกเรา

ออกจะน่าเสียดายไปสักหน่อยที่ไม่ค่อยจะมีเวลาให้ไปเที่ยวกันอย่างจริงจัง เพราะตารางเวลาค่อนข้างจะแน่น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำวิดีโอ การซ้อมพิธีต่างๆ รวมไปถึงภายในงานแข่ง แม้ว่าอาจจะไม่ถึงขั้นแน่นเอี้ยดจนไม่มีเวลาพักผ่อน แต่ก็ไม่ได้มีเวลาเหลือเฟือขนาดนั่งรถไฟออกไปแหล่งท่องเที่ยวกันได้ ถึงอย่างนั้นพวกเราก็ได้ใช้เวลาว่างบางส่วนเดินชมรอบๆ เมืองกวางตุ้ง ซึ่งพบว่าที่นี่มีความเป็นชานเมือง คือตึกรามบ้านช่องไม่ได้แน่นขนัดนัก แต่ก็มีผู้คนอาศัยอยู่พอสมควร มีห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อต่างๆ ค่อนข้างครบครัน เพื่อนชาวจีนก็บอกกับเราว่าอากาศที่นี่จัดว่าค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับที่ปักกิ่ง คือไม่มีฝุ่นควันหนา ซึ่งสำหรับผมแล้วถ้าให้เทียบกับกรุงเทพฯ ก็คือค่อนข้างใกล้เคียงกัน กวางตุ้งอาจจะดูครึ้มๆ หรือควันๆ กว่าสักหน่อย แต่ก็บอกได้ไม่เต็มปากว่าเพราะช่วงที่ไปมันฟ้าครึ้มหรือฝุ่นเยอะกว่าปกติด้วยหรือเปล่า

สำหรับอาหารการกิน รสชาติอาหารของที่นี่ค่อนข้างใกล้เคียงกับอาหารจีนในไทย สำหรับผมที่เกิดและโตมาในครอบครัวคนจีนแล้วจึงทานได้ไม่มีปัญหา จะติดนิดหน่อยก็ตรงที่น้ำมันค่อนข้างเยอะ หากทานเยอะเกินก็จะเริ่มเลี่ยนๆ และที่สังเกตได้คือร้านอาหารส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นแบบโต๊ะจีน คือมีถาดให้หมุนส่งอาหารให้กันได้อยู่ตรงกลาง แต่ที่แตกต่างคือที่นี่จะใช้น้ำชาล้างจานชามและตะเกียบกันก่อนทาน ซึ่งคนจีนบอกมาว่าเป็นเอกลักษณ์ของชาวกวางตุ้งและกวางโจว ส่วนคนแถบอื่นจะไม่ทำแบบนี้กัน

 

สุดท้ายชัยชนะของทัวร์นาเมนต์นี้ก็ตกเป็นของผู้ที่ใช้ชื่อว่า i.suk ตัวเต็งจากประเทศออสเตรเลียที่ฝีมือไม่ซักเหมือนชื่อ ได้รับเงินรางวัลกลับบ้านไป 5,000 หยวน แม้จะน่าเสียดายที่แชมป์ประเทศไทยนั้นแพ้ไปในรอบก่อนชิงชนะเลิศ แต่ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ทั้งผมและเขา เพราะประสบการณ์ที่ได้มาพบกับเพื่อนนักควงปากกาจากทั่วโลก จากที่เดิมทีได้แค่พูดคุยกันบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้นเรียกได้ว่ามีค่ายิ่งกว่าชัยชนะและเงินรางวัลเสียอีก แต่เอาจริงๆ ถ้าได้ตังกลับบ้านมาด้วยก็น่าจะดีกว่าแหละ

งานนี้ต้องขอขอบคุณ Guangdong Zhigao Company ผู้ใหญ่ใจดีที่จัดงานแข่งแบบนี้ขึ้นมา เป็นพื้นที่ให้กับเหล่านักควงปากกาทั่วโลก รวมไปถึงยังสนับสนุนทุกอย่างตั้งแต่ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ พร้อมกับเลี้ยงดูเป็นอย่างดีมีอาหารและที่พักฟรีตลอดงานแข่งขัน กับสารพัดกิจกรรมให้พวกเราได้สนุกสนานกันตลอดอีกด้วย

 

coffeelucky ทีม CondoMan เขียน