WE ARE THE BLOGKER

April 12, 2018
1278
CHALERMNIT ART DE MAISON ….THE NOVEL PERSPECTIVES OF LUXURIOUS JAPANESE-INSPIRED RESIDENCE ON SUKHUMVIT 53 BY AREEYA PROPERTY

รีวิว
สรุป

“โลกถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากมุมมองของเราทั้งหมด แต่การมองด้วยตาอาจไม่พอที่จะทำให้เราเห็นถึงแก่นแท้ เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามีที่ว่างเว้นให้เราตีความหรือจินตนาการได้มากกว่า 1 คำตอบ”

 

“เพื่อมองให้เห็นทุกแง่มุมอย่างลึกซึ้ง เพื่อค้นหาคุณค่าหรือแรงบันดาลใจ ต้องเปิดตาด้วยใจ ด้วยจิตวิญญาณ จึงจะได้คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับชีวิต”

 

คำพูดเหล่านี้เป็น ปรัชญาที่คุณวิศิษฏ์ เลาหพูนรังษี ผู้บริหารสูงสุดของอารียา นำมาใช้เป็นหัวใจหลักในการสรรสร้างคอนโดมิเนียมที่หรูที่สุดของอารียาแห่งนี้

 

ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่ทางอารียาบ่มเพาะ ใส่ใจในทุกขั้นตอนมากว่า 4 ปี แถมคุณวิศิษฏ์ยังลงมาคลุกคลี ลงดีเทลเองในทุกรายละเอียดอีกด้วย เพื่อให้เป็นงานที่อยู่อาศัยระดับ masterpiece สมดังที่ใจต้องการ

 

ซึ่งที่มาของมันก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

 

เดิม ที่ดินแปลงนี้เป็นของ ดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา บรมครูสถาปนิกศิลปินแห่งชาติ ผู้ออกแบบอาคารสวยๆระดับ landmark ประดับกรุงเทพมหานครไว้มากมาย อาทิ ตึกหุ่นยนต์,ตึกช้าง โดย ดร.สุเมธ และคุณวิศิษฏ์ รู้จักกันเมื่อครั้งไปทัวร์ชมศิลปะที่ฝรั่งเศส ด้วยรสนิยมที่คล้ายคลึง จึงถูกคอ ถูกใจ จนเป็นเพื่อนสนิท และตัดสินใจทำโครงการนี้ร่วมกันในที่สุด ซึ่ง ดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ศิลปินแห่งชาติผู้นี้ ยังเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญในการออกแบบโครงการนี้ด้วยความพิถีพิถัน ให้สมกับเป็นบ้านที่ท่านจะอยู่ในอนาคตเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์

 

ภาพด้านบนคือคุณวิศิษฏ์(ซ้าย) มอบดอกไม้ให้ ดร.สุเมธ(ขวา) ในวันแถลงข่าวโครงการเฉลิมนิจ

 

คำว่าเฉลิมนิจ อาร์ท เดอ เมซอง มีที่มาจาก เฉลิม และ นิจ

 

“เฉลิม” คือเฉลิมขวัญ ชื่อมารดาของดร.สุเมธ  ส่วน “นิจ” นั้นมาจากหม่อมหลวงเฉลิมนิจ บิดาของดร.สุเมธ ผู้ซื้อที่ดินแปลงนี้มาในราคาเพียง 1 สลึงเมื่อสมัยก่อน (จะเรียกว่าซื้อก็ไม่เชิง เพราะทำงานด้านหนังสือ((dictionary)) แลกที่ดินแปลงนี้ซึ่งสมัยก่อนคือท้องทุ่งนามาจากเจ้าของโรงพิมพ์)

 

ส่วนคำว่า อาร์ท เดอ เมซอง นั้นสื่อถึง ประเทศฝรั่งเศสและงานศิลปะ มีความหมายว่าที่อยู่ของศิลปิน

 

สุขุมวิท 53 ที่ CHALERMNIT ART DE MAISON ตั้งอยู่ คือซอยระดับ “Ultra Luxury” ที่น่าอยู่ที่สุด

 

ถ้ามีคนเดินมาถามผมว่า ซอยไหนในกรุงเทพที่ผมว่าน่าอยู่ที่สุด ? ผมตอบได้โดยไม่ลังเลเลยว่า “สุขุมวิท 53”

 

เหตุผลเพราะความร่มรื่น เงียบสงบ แต่แวดล้อมด้วยแหล่ง lifestyle ระดับพรีเมียม สามารถทะลุไป “ทองหล่อ” ได้ง่าย แถมยังใกล้รถไฟฟ้าสถานี top class แบบเดินสบายๆ

 

สุขุมวิท 53 เป็นซอยคู่ขนานกับถนนทองหล่อ ปากซอยคือรถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อ จุดเด่นของซอยนี้คือฟุตบาธที่ใหญ่เดินสบาย  2 ฝั่งถนนมาพร้อมกับต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นเรียงราย

 

ซอยนี้เงียบสงบถ้าเทียบกับซอยอื่นๆในย่านนี้ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม/ร้านอาหารชั้นดี และที่สำคัญยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนทองหล่อได้สะดวกถึง 3 ช่องทาง ทั้งทองหล่อ 1,5,9  (มีหลายๆคนเลือกเข้าซอย 53 นี้เป็นทางลัดเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดของทองหล่อช่วงต้น)

 

ปากซอย 53 นอกจากจะเป็นสถานีรถไฟฟ้าแล้ว ยังมีโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอย่าง BANGKOK PREP ตั้งอยู่อีกด้วย ซึ่งผู้ปกครองหลายคนสมัยนี้ มีแนวคิดอยากให้ลูกอยู่ใกล้โรงเรียน เดินไปโรงเรียนได้ ดังนั้นจึงเป็นอีกกลุ่ม real demand ของคอนโดซูเปอร์พรีเมียมแห่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

 

CHALERMNIT ART DE MAISON เข้าซอยสุขุมวิท 53 ไปประมาณ 450 เมตร ห่างจากบันไดทางขึ้นลงบีทีเอสทองหล่อ 500 เมตรพอดีๆ เดินได้สบายๆ (แถมมีฟุตบาธ) เป็นคอนโด low rise ที่ใกล้รถไฟฟ้าทองหล่อที่สุดในซอยฝั่งเลขคี่  ทำเลเงียบสงบแวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ เพื่อนบ้านเต็มไปด้วยบ้านหลังใหญ่ไฮคลาส (อย่างเช่นตระกูล อยู่วิทยา , ปันยารชุน ) และโครงการที่พักอาศัยระดับบน

 

CHALERMNIT ART DE MAISON” เป็นคอนโด 8 ชั้น 2 อาคาร บนที่ดินขนาดประมาณ 1 ไร่ครึ่ง จำนวน 122 ยูนิต (มีร้านค้าอีก 2 ยูนิต)

 

ขนาดเริ่มตั้งแต่ 33.4 -161.25 ตารางเมตร กับที่จอดรถเกิน 100% (อัตโนมัติทั้งหมดใช้แบรนด์ระดับ top จากญี่ปุ่น)

 

เต็มเปี่ยมอัดแน่นไปด้วย facility ระดับ ultra premium ต่างๆ ประกอบด้วย

 

สวนชั้นล่างที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันจาก TROP พร้อมต้นไม้ขนาดใหญ่ที่แทรกตัวระหว่างอาคาร ให้ความรู้สึกร่มรื่นตั้งแต่ประตูทางเข้าไปจนถึงภายใน โดยไม่มีการรบกวนจากรถยนต์ในโครงการซึ่งจะโดนบังคับให้หักซ้ายหลบเข้าที่จอดใต้ดินตั้งแต่หน้าทางเข้าอาคารแล้ว

 

Lobby ที่เชื่อมต่อวิวด้านนอกด้วยกระจกใสบานสูง

 

ชั้น Facility หลักคือชั้น B1 อยู่ลึกลงไป 12 เมตรจากผิวดินแปลกและแหวกแนวจากที่อื่น ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร มีทั้ง บ่อแช่ออนเซน แยกชายหญิง ,สระว่ายน้ำในร่มสวยๆ รวมทั้งห้องฟิตเนสออกกำลังกาย

 

ห้องกอล์ฟซิมูเลเตอร์ที่ชั้นบนสุด

 

*** Facility ทั้งหมดจะอยู่ที่อาคาร A ***

 

2 อาคาร มีจุดเด่นแตกต่างกัน

 

ตึก A เป็นอาคารที่มี facility มีห้องที่ได้ private lift  ตึก B มีห้องน้อยกว่า (มีเพียง 49 ห้อง)เป็นส่วนตัวกว่าและเป็นตึกที่มีที่จอดรถอัตโนมัติใต้ดิน  ระยะห่างระหว่าง 2 อาคารแคบสุดอยู่ที่ 6 เมตร กว้างสุดอยู่ที่ 12 เมตร

 

มีการใช้ครีบระแนงลายไม้ (ยังไม่มีข้อมูลด้าน spec วัสดุ)มาประดับผิวอาคาร ทำให้ดูมีมิติสวยงามเพิ่มความเป็นญี่ปุ่น และมีประโยชน์ในการบังตาจากห้องที่หันหน้าเข้าหากัน หรือแม้แต่สายตาจากภายนอกอาคาร

 

แปลนอาคารออกแบบได้ดี มีความแปลกใหม่ สมเป็นผลงานที่ปรึกษาของบรมครูสถาปนิกศิลปินแห่งชาติและบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น

 

โดยเฉพาะอาคาร A ที่ยกชั้น B1 เป็น Facility ทั้งหมด ชั้นล่างเป็น Lobby และส่วนที่พักอาศัย(Duplex Penthouse on Ground) อาคารนี้ดูราวกับว่าเป็น 2 อาคารเอามาแปะติดกัน มี corridor 2 ชุด ลิฟท์ 2 ชุด โดยส่วนหน้าเป็นแบบ Private Lift เข้าถึงห้องพัก ทำให้ตึกนี้ผู้พักอาศัยจะแชร์การใช้ลิฟท์และโถงลิฟท์สูงสุดแค่ 5 ยูนิตต่อชั้น

 

แปลนห้องสวยงาม มีหลายห้องได้กระจก 2 ทิศ ที่โครงการนี้ออกแบบให้มีอ่างอาบน้ำทุกห้องทุก TYPE แม้กระทั่งห้อง 1 bed 36 ตารางเมตรก็มีอ่าง จุดประสงค์เพื่อตอบโจทย์ lifestyle ของชาวญี่ปุ่นกลุ่มผู้อยู่อาศัยหลักย่านนี้ ที่นิยมแช่น้ำเอามากๆ อีกทั้งเกือบทุกห้องยังเป็นครัวปิดมีประตูกั้นเป็นสัดส่วน แยกกลิ่นและควันจากการทำอาหารไม่ให้ลอยไปรบกวนโซนอื่นๆในห้อง (สมกับที่มีการทำวิจัยถึงวิถีชีวิตคนญี่ปุ่นแท้ๆอย่างลึกซึ้ง และยังลงทุนจ้างนักออกแบบชาวญี่ปุ่นมาเป็นที่ปรึกษาลงลึกถึงทุกรายละเอียด)

 

มีห้อง duplex ด้วย

 

ที่น่าสนใจคือ ในห้อง 1 bed size ใหญ่ของที่นี่เป็น 1 Bed แต่มีถึง 2 ห้องน้ำ !!!!!! เหมาะสำหรับคนที่อยู่คนเดียวหรืออยู่กันเป็นคู่แต่ชอบมีเพื่อนมาสังสรรค์ที่บ้าน จะได้ไม่ต้องมาใช้ห้องน้ำร่วมกัน ไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน รักษาความเป็นส่วนตัวได้ดีกว่า (ผมเห็นห้องแบบนี้ที่นี่เป็นที่แรก)

 

ที่นี่มีห้องหลากหลายแบบ หลายขนาดไม่ซ้ำกัน ตอบโจทย์ตรงความต้องการด้าน lifestyle ของผู้อยู่อาศัยที่หลากหลาย ก็เหมือน concept ที่ทางคุณวิศิษฏ์ให้แนวทางไว้ข้างต้น

 

อย่างเช่น ถ้าไม่ชอบพบปะผู้คน ก็เลือกห้องที่มี private lift ซะ!!!

 

ชอบ 2 BED ใหญ่ๆระบายอากาศได้ดี ลม flow flow ก็จัดแบบนี้

 

 “ART” DE MAISON

 

แม้ชื่อจะออกทางฝรั่งเศส แต่ที่โครงการนี้มีความเป็นญี่ปุ่นในทุกอนู ทางอารียาได้เชิญคุณโคนามิ ฮาระ (原こなみ) ศิลปินชื่อดังชาวญี่ปุ่นสายสะบัดลายพู่กันเปลวทอง ผู้ซึ่งเป็น 1 ใน 10 ศิลปินที่รัฐบาลญี่ปุ่นคัดเลือกเพื่อมา ทำงานศิลปะ ประดับมหกรรมโอลิมปิคโตเกียวปี 2020 มาร่วมสร้างสรรค์งานศิลปะ ประดับทั่วทั้งโครงการ แม้แต่ในลิฟท์ที่จอดรถอัตโนมัติ ก็มีลายเส้นสวยๆ classic จากคุณฮาระประดับไว้ เพิ่ม value มหาศาลให้โครงการ

 

ดูผลงานจากศิลปินวัย 30 เพิ่มเติมได้ที่นี่ http://conamihara.wixsite.com/conami/info

 

 

ภาพอาร์ทๆของโครงการ

 

นอกจากการออกแบบแล้ว เพื่อให้ได้จิตวิญญาณความเป็นญี่ปุ่นอย่างถ่องแท้ CHALERMNIT ART DE MAISON ยังคัดเลือกบริษัทผู้รับเหมาจากญี่ปุ่น ให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง โดยบริษัทนี้เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เคยได้รับการคัดเลือกให้สร้างสนามบินคันไซ ที่โอซาก้ามาแล้ว รับประกันได้ในผลงานเมื่อแล้วเสร็จ

 

มองอนาคตของทำเล

 

ทองหล่อก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในทำเลสำหรับการอยู่อาศัยที่ดีที่สุดมาได้ระยะหนึ่งแล้ว มีโปรเจคใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย ที่ดินรกร้าง บ้านเก่าๆต่างก็ทยอยแปรสภาพเป็น คอนโดสูงราคาแพง โรงแรมหรู หรือ community mall สวยๆไปจนจะหมดแล้ว และในอนาคตอีกไม่นานที่นี่จะมีอาคารสำนักงานเกรดพรีเมียมอย่าง T-One  Tower ของเฮียตัน ภาสกรนที มาเพิ่มเติมให้ทำเลทองหล่อแห่งนี้ครบถ้วนในทุกด้าน การมาของ T-One จะเพิ่ม demand ความต้องการที่พักอาศัยในย่านนี้อย่างแน่นอน ฟันธง!!!!

 

อาคารออฟฟิศเกรด A นี้อยู่ห่างจากโครงการ 900 เมตร

 

CHALERMNIT ART DE MAISON ขายแบบ fully fitted ในราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยประมาณ 250k ต่อตารางเมตร ใกล้เคียงกับคอนโดเปิดใหม่ในเวลาเดียวกันในทำเลระดับเดียวกัน เพดานสูงพื้นถึงท้องพื้นด้านบน 2.7 เมตร (ความสูงจริงพื้นถึงฝ้าน่าจะ 2.5เมตร) ตามแบบฉบับคอนโด 8 ชั้นทั่วไป  ตัวอักษร 心 ใน logo แปลว่าหัวใจแสดงได้ถึงความมุ่งมั่น ใส่ใจในทุกรายละเอียดของผู้เกี่ยวข้องในการพัฒนาคอนโดนี้ได้อย่างดีที่สุด

 

ใครสนใจโครงการนี้ก็คลิ๊กเข้าไปดู Animation สวยๆกันก่อนที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=w9r_KIEWI4Y แล้วรีบติดต่อฝ่ายขายของโครงการเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Tel. 1797

 

** ตอนนี้อาคารผ่าน EIA ลงมือก่อสร้างเรียบร้อย จะแล้วเสร็จในปี 2563 **

 

ใครผ่านไปผ่านมาในซอยสุขุมวิท 53 จะเห็นรั้วโครงการแบบนี้ ล้อมต้นไม้ บ้านเก่าที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ และ site ก่อสร้างไว้ ดูดีมีชาติตระกูลสุดๆ

 

หมายเหตุ ระเบียงห้องในหลายๆ type มีขนาดเล็กมากๆ อาจไม่ค่อยถูกใจคนชอบระเบียง และอารียายังไม่มีคอนโดระดับ ultimate premium ที่สร้างแล้วเสร็จเลยแม้แต่โครงการเดียว โครงการนี้เป็นโครงการแรกในการจับตลาดบนสุด ซึ่งเร็วๆนี้ อารียาจะเปิดตัว สุนทรียา ราชดำริ คอนโด Ultra luxury ต่ออีกหนึ่งโครงการ

 

ปล.แม้ที่จอดรถและชั้น facility จะอยู่ลึกลงไปจากผิวดินกว่า 12 เมตร แต่ทางโครงการได้เตรียมงานวิศวกรรมและวางระบบ Flood Protection ระดับสากลสำหรับป้องกันและระบายน้ำในกรณีฉุกเฉินไว้เรียบร้อยแล้ว********