.
.
THE LOFTS RATCHATHEWI by RAIMON LAND
คือคอนโดในทำเลจุดศูนย์กลางของกรุงเทพ
เป็นใจกลางเมืองแท้ๆห่างเพียง 800 เมตรจาก siam discovery ห้างใหญ่และออฟฟิศบิลดิ้ง ที่เชื่อมต่อเป็นเนื้อเดียวกับ siam center และ siam paragon ซึ่งตรงนี้คือสถานีสยาม จุดศูนย์กลางของ BTS และเป็นทำเลศูนย์กลางของกรุงเทพของเราที่ทุกคนยอมรับ และไม่น่าจะมีใครไม่รู้จัก “สยาม”
ภาพจำลองเมื่อ The Lofts สร้างเสร็จมุมมองจากสะพานลอยทางเชื่อม MBK ไปสยาม
อีกทั้งยังเป็นจุดตัด interchange ของรถไฟฟ้าถึง 3 สายสำคัญ ประกอบไปด้วย
- จุดตัด Airport rail link กับ BTS ที่สถานีพญาไท (ห่างจากคอนโด 280 เมตร) ซึ่งในอนาคต ARL จะวิ่งต่อไปเชื่อมสนามบินดอนเมืองได้ด้วย
- จุดตัด BTS กับ MRT สายสีส้มเฟส 2 ที่จะไปได้ทั้งศิริราช ประตูน้ำ หรือเชื่อมต่อไปย่านมีนบุรีที่เป็นเฟส 1 ผ่านสถานีศูนย์วัฒนธรรม (สายสีส้มห่างคอนโดไม่เกิน 20 เมตร ถ้าอ้างอิงจากโมเดลของอาคาร spring tower ส่วน BTS ราชเทวีห่างจากโครงการ 180 เมตร)
ซึ่งถ้าดูจากภาพแผนผังรถไฟฟ้าเมื่อสร้างครบทุกสายแล้วจะเห็นความเป็น center ของทำเลนี้และโครงการ The lofts นี้ได้เป็นอย่างดีครับ
** ทำเลที่เป็นจุดศูนย์กลางของเมือง ถ้าอ้างอิงจากเมืองเอกของโลกที่เจริญแล้วทั้งหลาย อย่างเช่นรอบสถานี TOKYO , สถานี osaka (umeda) ,สถานี central ที่ hongkong , หรือ dhoby ghaut ที่ singapore จะพบว่ามีมูลค่ามหาศาลและอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ในย่านจะเป็น ออฟฟิศ ห้าง หรือโรงแรมมากกว่าคอนโดมิเนียม **
The Lofts ratchathewi ตั้งอยู่บนที่ดินริมถนนพญาไท ห่างจากสถานี BTS ราชเทวีประมาณ 150-180 เมตรแล้วแต่แนวทางการเดิน
ซึ่งระยะเดินจาก BTS ประมาณนี้ คือคอนโดมิเนียมที่ใกล้สถานีราชเทวีที่สุดที่เปิดขายในรอบ 8 ปี !!!!
ติดกันกับแปลงThe lofts คือ SPRING TOWER อาคารสำนักงานที่ทันสมัยที่สุดในย่านนี้ เป็นอาคารกระจกล้วนรูปทรงทันสมัย พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบอีกไม่กี่วัน
การเป็นคอนโดติดอาคารสำนักงานพรีเมียม ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการที่พักของกลุ่มคนที่ทำงานใน spring tower ที่อยากมีที่พักติดกับที่ทำงาน ด้วยราคาค่าเช่าพื้นที่ที่แพงของ spring tower (ประมาณ 1,000 บาทต่อตารางเมตร ต่อเดือน) กลุ่มผู้เช่าหลักจึงเป็นบริษัทข้ามชาติทำให้มีชาวต่างชาติมาทำงานจำนวนมาก อีกทั้งยังมี we work co – working space ชื่อดังมาเปิดให้บริการ
เชื่อแน่ว่าเมื่อคอนโด The lofts สร้างเสร็จ จะมีความต้องการเข้าพักสูงสุดๆ เหมาะกับการซื้อลงทุนให้เช่า
ภาพล่าสุดของ spring tower ตัดเส้นสีทองกับกระจกสีฟ้าเข้ากันได้ลงตัว
ผมลองเดินจาก BTS ราชเทวีข้ามถนนมาที่ฝั่งที่คอนโดกับ spring tower ตั้งอยู่ พบว่าไม่ได้เดินยากอย่างที่หลายคนบอก มีทางเดินให้คนข้ามถนนขีดไว้ชัดเจน ไม่รู้สึกอันตรายเลยครับ
นอกจากตึก spring tower จะนำความทันสมัย สร้างความรู้สึกถึงความเจริญของเมืองใหญ่มาให้กับย่านนี้แล้ว ตึกนี้ยังนำความเขียวร่มรื่นมาให้แก่ชุมชนแถวนี้อีกด้วยครับ โดยมีสวนด้านหน้าขนาดใหญ่ซึ่งปลูกต้นไม้ไว้จำนวนมาก และความเขียวร่มรื่นนี้ยังเชื่อมต่อไปถึง landscape ด้านหน้าของคอนโด The LOFTS ratchathewi อีกด้วย
ในอนาคตเมื่อคอนโดเสร็จมุมมองจากทางแยกก่อนข้ามถนน จะเห็นอาคารคอนโดชัดโดดเด่น
บางคนอาจะไม่ชอบที่เดินจากสถานีราชเทวีต้องข้ามถนนเพื่อมาถึงคอนโด ไม่เป็นไรนะ คุณสามารถเลือกใช้บริการสถานีพญาไทที่เป็นจุดตัดกับ ARL ไปสุวรรณภูมิแทน ซึ่งมีระยะห่างจากโครงการแค่ประมาณ 280 เมตรเท่านั้น เดินเพิ่มนิดเดียวแถมฟุทบาทใหญ่ เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร
ผมทำภาพจำลองมุมมองจากสถานีพญาไท ไปที่ The LOFTS เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จมาให้ดูกันครับ
สถานีพญาไท ยังมี mixed use ขนาดใหญ่ชื่อว่า THE UNICORN กำลังก่อสร้างเตรียมเปิดให้บริการในอีกประมาณ 2 ปี โดยจะมีทั้งออฟฟิศ โรงแรม และพื้นที่ร้านค้า
future development ที่สำคัญไม่ได้มีแค่ spring tower และ The unicorn เท่านั้น แต่ยังมีความเคลื่อนไหวที่แปลงที่ดินของตระถูลจุฬางกูรหัวมุมแยกราชเทวี ที่มาแปะป้ายประชาสัมพันธ์ว่าจะสร้างโครงการ JRK tower อาคารสูง 45 ชั้น ซึ่งจะมีทั้งออฟฟิศ โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเติมเต็มความสมบูรณ์ให้แยกราชเทวี ขึ้นชั้นเป็นทำเลเกรด S ของกรุงเทพมหานคร เทียบเท่ากับย่านเพลินจิต วิทยุ ได้อย่างแน่นอน เหมือนอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาหลายคนคาดการณ์
ราชเทวีทำเลที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียม
ด้วยหลายๆเหตุผลที่เขียนถึงข้างต้น ทำให้ทำเลนี้มี developer หลายรายตบเท้าเข้ามาซื้อที่ดินทำคอนโดมิเนียมขาย โดยราคาคอนโดย่านนี้พุ่งไป 200,000 – 250,000ต่อตารางเมตร เรียบร้อยแล้ว คอนโดใหม่ที่เปิดขายและจะเสร็จพร้อมๆ the lofts มีอีก 4 โครงการประกอบไปด้วย Wish signature 2 , The Address ratchathewi , Park Origin ratchathewi , Conner ratchathewi และทั้ง 4 โครงการเป็นอาคาร High Rise ที่สูงกว่า 40 ชั้น ทำให้เมื่อทุกโครงการสร้างเสร็จ ย่านนี้จะมีตึกสูงเกิดขึ้นอีกอย่างน้อย 7 อาคารในรัศมี 400 เมตรจากแยกราชเทวีนี้
THE LOFTS RATCHATHEWI
(เดอะ ลอฟท์ ราชเทวี)
EXPERIENCE
THE EXTRAORDINARY SPACE
Project Type: Freehold Residential Condominium
Storeys: 33 Storeys with 1 Basement
Total Land Area: 1-2-31.5 Rai (2,526 sqm.)
Units: Approximately 273 Units
Types of Units:
Studio 25.5 ตารางเมตร//1 Bedroom 35-67 ตารางเมตร // 2 Bedrooms 63.5 – 87 ตารางเมตร // 3 Bedroom 109.5 ตารางเมตร
(Loft, Simplex, Simplex with optional layout*, Dual Keys)
Unit Highlights:
Dual keys type with multipurpose optional layouts
Full height glass windows
Ceiling Height:
Approx. 4.70 m. in Loft Primary Space only
Approx. 3.00 m. in Simplex Primary Space only
จุดเด่นที่นี่คือความเป็นตึกผนังกระจก ทำให้ดูพรีเมียมกว่าโครงการอื่น และยิ่งเป็นคอนโดติดถนนพญาไททำให้โดดเด่นและแตกต่าง เข้ากันได้ดีกับอาคาร spring tower ที่ติดกันที่เป็นผนังกระจกเหมือนกัน และที่นี่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ *
โครงการมีห้อง 2 แบบคือ simplex เพดาน 3.0 เมตร ชั้น 9-18 และ 28-34 // ห้อง Loft เพดาน 4.7 เมตร ชั้น 19-25 ซึ่งความสูง loft ที่ 4.7 เมตร สูงกว่าคอนโดห้อง loft แถวนั้นพอสมควร ทำให้ระยะเพดานไม่อึดอัดทั้งชั้นล่างและบน
สำหรับผมที่ที่พักอาศัยปัจจุบันเป็นห้อง LOFT ฟันธงว่าความสูงอย่างน้อยต้อง 4.45 เมตรขึ้นไปถึงจะอยู่สบาย ต่ำกว่านี้อึดอัด !!!!
เนื่องจาก The Lofts ratchathewi ตั้งอยู่ริมถนนพญาไท ที่มีการสัญจรคับคั่ง ทำให้โครงการมีการออกแบบให้มีกำแพงสูงกั้นระหว่างภายในและภายนอก ไม่ให้ความวุ่นวายเข้าสู่ภายใน
และสภาพเดินของแปลงที่ดินก่อนพัฒนา ด้านหน้าริมถนนเป็นตึกแถวเก่า ซึ่งไรมอนแลนด์ได้มาไม่ครบ ทำให้หลงเหลือตึกแถวอยู่ 4 คูหา เป็นของบุคคลอื่น 3 คูหา และของ The Lofts ratchathewi 1 คูหา (ทำเป็น facility)
ที่จอดรถของ The lofts ratchathewi เป็นแบบ conventional ซึ่งหลายๆคนชอบมากกว่าที่จอดอัตโนมัติ (จอดได้ 177 คัน คิดเป็น 65%)
facility ของโครงการ
ชั้น ground
มีสวนสวยๆหน้าโครงการใช้ชื่อว่า Rain tree courtyard และ secret garden ที่แอบซ่อนอยู่ด้านใน ซึ่งต้นไม้เหล่านี้นอกจากจะให้ความร่มรื่น ยังช่วยซับเสียงและมลพิษของริมถนนย่านธุรกิจได้เป็นอย่างดี
secret garden จะอยู่ริมรั้วโครงการฝั่งติดถนนซอยด้านข้าง
อย่างที่บอกว่าทางโครงการมีเก็บตึกแถวไว้ 1 คูหา ซึ่งจะดัดแปลงให้เป็น facility สุด cool ใช้ชื่อว่า Pavillion lounge ชั้นล่างเป็นผืนน้ำ ชั้นบนเป็นที่นั่งเล่นและ mini theater (ตึกแถวนี้จะถูกปิดทางเข้าจากฝั่งถนน เข้าออกได้จากด้านในโครงการเท่านั้น)
ผิวอาคาร pavilion เป็นผิวปูนฉาบที่กระเทาะโชว์อิฐแดงบางส่วน แบบ loft สุดขีด
ทางเดินเข้า pavillion คล้ายๆแผ่นหินวางบนบ่อน้ำที่ล้อมต้นไม้อยู่ 1 ต้น สวยดูดีมีรสนิยมมากๆ
LOBBY ตกแต่งด้วยหินเข้ม มี co-working space โดยออกแบบให้มีกระจกใสมองออกมาสู่สวนด้านนอกได้ อีกทั้งยังเชื่อมต่อความร่มรื่นของสายน้ำเข้าสู่ด้านในอาคารด้วย
ด้านหลังที่ดินมีริ้วของสวนและ pet area ให้น้องๆมาวิ่งเล่นได้
ชั้น 27 เป็น Facility floor
ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ(ปลอดคลอรีน) semi outdoor ขนาด 5 x 25 เมตร พร้อม jacuzzi อยู่ด้านทิศเหนือ (หันไปทางสถานีพญาไท) มีม่านน้ำตก และฝังไฟ fiber optic ที่บนเพดานเหนือสระด้วย ห้องน้ำที่ชั้นนี้จะมี steam room ให้ด้วยทั้งฝั่งชายและหญิง
ห้อง fitness และ semi outdoor deck
และ pictureque courtyard ไว้ชมสวนหินและทอดอารมณ์ไปกับ sky line ของกรุงเทพ
และสิ่งที่ทีมออกแบบมั่นใจว่าจะเป็น highlight ของโครงการ นั่นคือเวลาออกจากลิฟท์ที่ชั้นนี้ จะสามารถมองลอดกระจกออกมาผ่านม่านน้ำตก เห็นสระว่ายน้ำสวยๆได้ อันนี้น่าสนใจมากๆ อารมณ์เหมือนได้ไปใช้บริการที่โรงแรมเกรดพรีเมียม
ชั้นดาดฟ้า
เป็นพื้นที่สีเขียวทั้งหมด ขึ่นมานั่งเล่นดูวิวที่จุดสูงสุดได้ และมีที่ว่างเผื่อไว้หนีภัยทางอากาศตามกฏหมาย
FLOOR PLAN
ชั้นพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 9 มีปล่องลิฟท์และบันไดหนีไฟอยู่ตรงกลาง ทำให้ห้องพักอาศัยเป็นแบบ single corrid0r ไม่มีห้องตรงข้าม และไม่มีหน้าต่างช่องแสงไว้ระบายอากาศด้วย
ชั้น 9-18 เป็น simplex ห้อง 1 BED เล็กขนาด 35 ตารางเมตรจะหันทิศใต้ไปหา spring tower / ห้อง 1 BED ใหญ่ขนาด 51 ตารางเมตร หันทิศตะวันออกด้านถนนพญาไทหน้าโครงการ /ห้อง 1 BED PLUS ขนาด 58.5 ตารางเมตรหน้ากว้าง หันด้านหลังทิศตะวันตก / ห้อง 1 BED 50.5 – 51.5 ตารางเมตร หันทิศเหนือไปทางสถานีพญาไท ห้อง 1 BED ยกเว้นห้องเล็ก จะได้ครัวปิดทั้งหมด
มุมทั้ง 4 เป็น 2 BED ROOM ได้หน้าต่าง 2 ทิศ โดยห้องด้านหลังจะมีขนาด 63.5 ตารางเมตร เล็กกว่า ห้องมุมด้านหน้าที่เป็น 72.5 ตารางเมตรแบบ DUAL KEYs**
** ห้อง DUAL KEYs …. คือห้อง 2 bed plus ที่สามารถแบ่งกั้นเป็น studio และ 1+1 bed ได้ ภายในยูนิตอีกที (มีครัวให้2 ชุด) เหมาะกับคนที่ซื้อห้องไว้เพื่ออยู่อาศัยและลงทุนในเวลาเดียวกัน สามารถปล่อยเช่าห้องภายในยูนิตที่ตนพักอาศัยได้ เช่นบางคนซื้อห้องเผื่อลูกโตก็เอาห้องลูกมาปล่อยเช่าก่อนแทนที่จะไว้เก็บของเฉยๆไม่เกิดรายได้ คอนเซปต์นี้เห็นมากที่สิงค์โปร์และฮ่องกง
Dual keys : Inspired by compact city center apartments in Singapore and Hong Kong, the project also features a “Dual Keys” concept that Bangkok has never seen before. The apartments split into two (a studio and a 1+1 bed apartment), for better financial feasibility via renting the studio and lifestyle flexibility in living in the 1 bed apartment, without any compromise of privacy.
ห้อง dual keys เป็น option สามารถปรับครัวที่ห้อง studio เป็นตู้เสื้อผ้า และไม่เอาประตูกั้นยูนิตภายในได้
ชั้น 19-25 เป็นชั้น LOFT เพดานสูง (มีชั้นลอย)
ห้อง 1 bed หน้ากว้างจะอยู่ที่ทิศเหนือและใต้ โดยฝั่งทิศใต้มีขนาดเล็กกว่าแต่หน้ากว้างเท่ากัน / ทิศตะวันตกและตะวันออกเป็นห้อง 1 bed หน้าแคบกว่า / ห้องใหญ่ 2 bed อยู่ที่มุมทั้ง 4
** ตัวเลขขนาดพื้นที่เป็นพื้นที่ใช้สอยจริงตามโฉนดเท่านั้น ไม่รวมพื้นที่ชั้นลอย **
พอรวมชั้นลอยไปจะมีขนาดเพิ่มห้องละ 13.5 – 18.5 ตารางเมตรแล้วแต่ห้อง ซึ่งพื้นที่ด้านบนถือเป็นเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น ผมมีแปลนห้องรวมเฟอร์ชั้นลอยมาให้ดู 1 ห้อง ส่วนที่เหลือถ้าสนใจให้สอบถามจากทางทีมเซลล์นะครับ
ชั้น 26
เป็นชั้น simplex ที่อยู่ใต้สระ ข้อดีคือมีห้องน้อยกว่า และเหมือนจะมีหน้าต่างช่องแสงระบายอากาศที่โถงทางเดิน
ชั้น 28 – 30
เป็นชั้น simplex เหนือชั้นส่วนกลาง ห้องด้านหน้าได้วิวสวนและสระชั้น 27 ชั้นสูงๆนี้จะมีห้องขนาดใหญ่ที่มีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย เหมาะกับคนพรีเมียมที่มีงบประมาณมากกว่า // ห้อง studio ขนาด 25.5 ตารางเมตรก็อยู่ที่ 3 ชั้นนี้เท่านั้น
ชั้น 31-33
คล้ายชั้น 28-30 แต่ห้อง studio จะหายไปรวมกับห้อง 2 BED กลายเป็นห้องแบบ 3 ห้องนอนขนาด 109.5 ตารางเมตรมาแทน
ห้อง 3 ห้องนอนเป็น dual keys ที่มี option ปรับเป็นห้องปกติได้ครับ
ภาพรวมของการแบ่งชนิดของชั้น
จูเลียทบัลคอนี่ JULIETT BALCONY
ที่ The Lofts Ratchathewi หลายๆห้องจะไม่มีระเบียงห้องแบบเดิมๆที่เป็นส่วนรับลมเปิดโล่งนอกห้อง แต่จะใช้การเลื่อนเปิดกระจกที่สูงพื้นถึงพื้นออกได้สุด และมีราวกันตกกันไว้ไม่ให้คนตกออกจากห้อง หรือที่เรียกกันว่าจูเลียท บัลคอนี่ เป็นการใช้ประโยชน์ทุกตารางเมตรให้ได้เกิดประโยชน์สูงสุด (รูปแบบนี้เป็นที่นิยมของ คอนโดระดับ super luxury หลายแห่งตอนนี้ เพราะราคาที่ดินแพงเหลือเกิน)
* ถ้าอยากได้ห้องที่มีระเบียงแบบปกติ จะมีอยู่ที่ทิศตะวันตกและเหนือ
ทิศใต้วิวไม่ได้บล็อกแบบที่คิด
ด้านทิศใต้ติดอาคาร spring tower ทำให้มีหลายห้องหันไปหาตึกนี้ แต่การที่ที่ดินไม่ได้อยู่เป็นระนาบเดียวกัน ทำให้เมื่อวางแปลนตึกคู่กันแล้ว จะเหลื่อมๆกันอยู่ โดย The Lofts จะร่นมาด้านหน้าของ spring tower ทำให้ห้อง 50% ของฝั่งนี้ไม่โดนบล็อกหน้าตรงแต่อย่างใด (ที่จริงมีห้องเดียวที่ถือว่าโดนบล็อก เพราะห้องด้านหลังเป็นห้องมุมมีหน้าต่าง 2 ด้าน วิวอีกฝั่งโล่ง)
ลองเอาภาพตัดขวางของทั้ง 2 อาคารมาซ้อนกันยิ่งเห็นชัดครับว่าด้านหน้าไม่บล็อก แถมถ้าชั้นสูงๆอาคาร spring tower จะเอียงเข้าด้านน ทำให้มุมมองยิ่งโล่ง
อย่างไรก็ดี ห้องที่บล็อกวิวสนิท ทางโครงการขายถูกกว่าห้องอื่นพอสมควร สำหรับสายปล่อยเช่าก็เป็นเงื่อนไขที่ไม่เลวนะครับ
วิวทิศต่างๆ
บรรยากาศในที่ดินจริง
เวลานี้ (ปลายปี 2562) ทางไรมอนแลนด์อยู่ระหว่างดำเนินการขอ EIA โปรเจคนี้อยู่ครับ สภาพที่ดินยังมีตึกแถวเก่าที่ยังไม่ได้ทุบหลายสิบคูหา
มองเข้าไปด้านใน ตึกแถวเก่าทางขวามือจะหายไปหมดถึงแนวรั้วสังกะสี
มองไปทิศเหนือ จะทุบตึกแถวด้านหน้าออกอีก 2 คูหา
มองไปทางทิศใต้ เห็น spring tower ชัดเจน ตึกนี้สวยจริงๆเพิ่มมูลค่าให้บริเวณนี้แบบมหาศาล ห้องที่หันทิศนี้ที่วิวบล็อก ก็บล็อกด้วยตึกสวยๆเป็นกระจกเงาสะท้อนวิวล่ะครับ ไม่ใช่ถูกบล็อกด้วยตึกปูนๆเก่าๆ
รูปแบบของวัสดุภายในห้อง สามารถเลือกได้ 2 แบบ
URBAN LIGHT – โทนสีสว่าง พื้นกระเบื้องลายไม้สีอ่อน
TWILIT NIGHT สีโทนเข้ม
[ไรมอนแลนด์แตกต่างจาก developer อื่น คือคอนโดมิเนียมจะให้พื้นกระเบื้องทั้งห้องไม่ใช่ไม้ (ส่วนพื้นชั้นลอยเป็นไวนิล)]
ซึ่งวัสดุต่างๆ รอชมห้องตัวอย่างที่จะเสร็จปีหน้าตอนเปิดขายอย่างเป็นทางการละกันครับ
ราคาขาย
ตอนพรีเซลล์ เริ่มต้นประมาณตารางเมตรละ 18x,xxx บาท ถ้าเทียบกับคอนโดที่เปิดพร้อมๆกันในทำเลเดียวกันคือ ถูกกว่าเล็กน้อยถึงปานกลาง (ผมซื้อชั้น 20 แบบ LOFT รวมพื้นที่บนล่าง 210K ต่อตารางเมตร)
- conner ราคาเฉลี่ย 260k ต่อตารางเมตร
- The Address ราคาเฉลี่ย 230k ต่อตารางเมตร เริ่มต้น 5.9 ล้านบาท 31 ตารางเมตร
- Park origin ราคาเฉลี่ย 200k รวมพื้นที่ชั้นลอยที่ความสูงห้อง loft 4.35 เมตร ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท
PET WELCOME
คอนโดไรมอนแลนด์ยุคหลัง สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ที่นี่ก็เช่นกันครับ (แต่อย่างไรก็ตามต้องขึ้นกับมติของนิติบุคคล ที่จะโหวตกันตอนส่งมอบจาก developer ไปสู่คณะกรรมการในเวลานั้น) ถ้าใครมองหาคอนโดที่สามารถเอาเพื่อนรักต่าง สปีชี่ยส์ ไปใช้ชีวิตด้วยกันได้ ที่นี่คือที่ที่เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน
เหตุผลที่โครงการนี้น่าซื้อเก็บมากๆ (ผมก็ซื้อที่นี่ )
**ข้อความข้างล่างผมโพสลง facebook Theblogker ไปแล้ว ขอเอามารีโพสอีกทีนะครับ**
(อยากจะเล่าถึงเหตุผล ที่ทำให้ผมซึ่งตั้งใจว่าจะหยุดซื้อคอนโด presale ไปอย่างน้อย 1-2 ปี ต้องยอมผิดแผน)
เริ่มจากผมรู้ข่าวของโครงการนี้มาตั้งแต่ HEAP เพิ่งปิดใหม่ๆ ก็สนใจมากๆ เนื่องจากทำเลที่ตั้งของแปลงที่ดินมันคือที่สุดของคอนโดในยุคหลังๆแล้ว
ที่สุดยังไง ? …………
ทำเลนี้คือราชเทวี ราชเทวีที่แต่ก่อนมีคนมาเปิดตัวคอนโดระดับราคาเริ่ม 2แสนค่อนปลาย(ต่อ ตารางเมตร) แล้วบอกว่าอนาคตจะไปถึง 3แสนกว่าบาท ต่อตารางเมตร แถมขายดี sold out หรือเกือบๆซะ ด้วย
ราชเทวี ที่มี developer รายใหญ่อีกเจ้าเก็บที่ดินมาทำคอนโดแบรนด์ที่บนเกือบที่สุดของตัวเอง ในราคาวาละ 1.9ล้าน แถมแปลงที่ดินยังอยู่บนถนนรองและทางเข้าเป็นเส้นถนนลึกเข้าไปอีก ราชเทวียังเป็นทำเลที่ใกล้สยามที่สุด
…นี่คือราชเทวี
อีกทั้งแปลงที่ดินของ the lofts ยิ่งดีขึ้นไปจากแค่คำว่า “ราชเทวี”อีก
-ใกล้ bts ราชเทวีมากๆแค่ 130เมตร แถมใกล้ bts พญาไทในระยะแค่ 280เมตร (ซึ่งสถานีพญาไทยังเป็นจุด interchange ไป Airport rail link
– ติดอาคาร spring tower อาคารสำนักงานสุดทันสมัย
– ซึ่งอาคารสำนักงานที่สร้างบนที่ดินของทรัพย์สินแปลงนี้ยังจะมีสถานีรถไฟใต้ดินสายสีส้มมาด้านหน้าแบบ งง งง ทำให้แปลง the lofts จะกลายเป็นสถานี interchange 3 สาย !!!!
– ติดถนนพญาไทแท้ๆ ศักดิ์ศรีดีกว่าติดเพชรบุรีมาก ซึ่งไม่มีคอนโดใหม่อื่นที่เปิดพร้อมๆกันในสถานีนี้ ได้ที่ดินติดพญาไท (ที่เตรียมจะเปิดอีกที่บนถนนพญาไทก็ติดปัญหาเลื่อนแล้วเลื่อนอีก)
แค่ปัจจัยเรื่องทำเลนี้ก็ทำให้ผมสนใจสุดๆแล้ว ยังมีความเป็นแบรนด์ RAIMON LAND แบรนด์ระดับบนที่ใครๆก็อยากได้ไว้ครอบครอง มากระตุ้นความอยากอีกด้วย
แต่ผมตั้งใจไว้แล้วนะว่าปี 2019 จะหยุดซื้อ !!!!
เนื่องจากปีนี้ตลาด คอนโดอิ่มตัวสุดๆ supply เติมตลอด แต่ด้านdemand กลับเจอปัจจัยลบมากมาย ทำให้หลายๆคนชะลอการตัดสินใจ
แต่พอผมเห็นโปรดักส์ เห็นราคา และงวดการจ่ายเงิน ผมกลับห้ามใจไม่อยู่ โดยคอนโดสูง 33ชั้น แบบผนังกระจกแห่งนี้ คือสิ่งที่ผมรอคอยมานานบนทำเลนี้ ที่ผมอยากจะได้อยากจะมีมานานแล้ว (แต่หาคอนโดถูกใจไม่ได้)
THE LOFTS คือคอนโดที่ผมรอคอย นอกจากการเป็นตึกกระจกล้วนที่จะดูแพงดูดีดูพรีเมียม เมื่อสร้างเสร็จ การเป็นผนังกระจกยังทำให้เก่าและล้าสมัยยากกว่าตึกที่เน้นฉาบปูนทาสี
Landscape ที่ชั้นล่าง ตรงทางเข้ายังร่มรื่นต่อเนื่องจากถนนพญาไทที่มีต้นไม้ตลอดแนว และการที่ยกกำแพงให้สูงขึ้น พร้อมสวนขนาดใหญ่ ทำให้ตัดขาดทอดทิ้งความวุ่นวายจากภายนอกไม่ให้เข้าสู่ภายใน
ที่นี่ยังใช้อาคารพานิชเก่าริมถนนให้เกิดประโยชน์ ไม่ทุบทิ้ง แต่ปรับปรุงดัดแปลงให้เป็น triple facility แนวตั้งที่มีเสน่ห์แบบแปลกประหลาด
Lobby ทั้ง indoor และ outdoor แบ่งแยก function การใช้งานและยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ที่จอดรถแบบ conventional (ไม่ใช่ลิฟท์จอดรถอัตโนมัติ) 65% จัดว่ามากเกินมาตรฐานคอนโดยุดใหม่
sky facility ยกสระว่ายน้ำไปไว้ด้านบน ให้ชมวิว skyline กรุงเทพสวยๆ และ ไม่ใช่สระน้ำธรรมดา แต่มีการออกแบบความเชื่อมต่อไล่จากภายนอกเข้าสู่ภายใน โดยเมื่อกดลิฟท์ขึ้นมาชั้นนี้ สิ่งแรกที่ทุกคนเห็นคือม่านน้ำตกบางๆที่เชื่อมต่อภาพสระว่ายน้ำด้านหลัง สวยสุดๆ
อ้อ !!! ยังมี roof top garden ให้ไปนั่งชิลล์อิ่มเอมกับธรรมชาติท่ามกลางเมืองใหญ่ด้วยครับ
คอนโดเริ่มตั้งแต่ studio 25 ตารางเมตร ไปจนถึงห้อง 3 BED 109.5 ตารางเมตร แบ่งเป็นห้อง simplex เพดาน 3 เมตร (ชั้น 9 – 18 , ชั้น 26,28-33) และห้องแบบ Loft เพดาน 4.7 เมตร ที่ชั้น 19-25
ในราคาเริ่มต้นแค่ 18×,××× บาทต่อตารางเมตรเท่านั้น ผมว่าเปิดราคามาดึงดูดนะ ด้วย spec ด้วยทำเล คือราคาเริ่มต้นประมาณนี้ ถ้าไม่ใช่ยุคตลาดคอนโดแบบนี้คงไม่ได้เห็น
อย่างห้องที่ผมจองเป็นห้อง loft ชั้นสูง ราคารวมพื้นที่บนล่างหารออกมาแค่ 207k ต่อตารางเมตรเท่านั้น
ทั้งproduct ดี ทั้งราคาสมเหตุสมผล แถมยังเพิ่มเติมด้วยเงื่อนไข ทำสัญญาและผ่อนดาวน์ น้อยที่สุดเท่าที่ไรมอนแลนด์เคยขาย ตกประมาณ 5+10% เท่านั้น ผ่อนกันประมาณ 4 ปี ถึงตอนนั้นเศรษฐกิจฟื้น ย่านนี้ตึกสูงๆสร้างเสร็จ the unicorn โปรเจคแห่งอนาคตที่เป็น landmark ของย่าน(ออฟฟิศ รีเทล โรงแรม ) สร้างเสร็จ ราคานี้ ทำเลแบบนี้ spec แบบนี้ผมว่าหาไม่ได้อย่างแน่นอน
เลยตกลงซื้อแบบไม่ลังเลครับ อีก 4ปี มั่นใจว่าตอนโอนจะรู้สึกคุ้มค่า แบบเดียวกับทุกคอนโดที่ผมโอนและถือกรรมสิทธิอยู่ตอนนี้