WE ARE THE BLOGKER

October 7, 2020
1441
แชร์การลงทุนของตัวเองในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมา ข้อดีในการซื้อขายผ่านเอเจนต์ที่เราไว้ใจ

รีวิว
สรุป

(ออกตัวก่อนว่าโพสต์นี้ไม่ได้บอกให้เพื่อนๆ ซื้อตามผมนะ อย่างที่เขียน การที่ผมขายได้มันมีหลายปัจจัย ผมแค่แชร์มุมมองการลงทุนตามเจตนาเพจครับ)

อาทิตย์ที่ผ่านมาผมขาย The Line พหลฯ-ประดิพัทธิ์ และ The Line สุขุมวิท 101 ไปโครงการละห้อง สองห้องนี้ซื้อในช่วงโปรลื่นปื้ดตอนเดือนมีนาคมและโอนไปในช่วงเดือนเมษายน สองห้องนี้น่าจะเป็นห้องแรกๆ ของโครงการที่ขายต่อ (Resale) ได้ ส่วนใบจองก็ขายได้อยู่บ้าง ผมจะมาแชร์ให้ฟังว่าตอนนี้ผมลงทุนแบบไหนไปครับ

ก่อนอื่นผมต้องบอกให้เพื่อนๆ เข้าใจก่อนว่า ผมลงทุนกับคอนโดของแสนสิริเป็นส่วนใหญ่ เอาเป็นว่า 90% ของคอนโดที่ผมซื้อในชีวิตนี้เป็นคอนโดของแสนสิริ คอนโดที่อยู่เองก็เป็นคอนโดของแสนสิริ มีพึ่งมาซื้อ Saladaeng One ของ SC Asset อยู่เองนี่แหละแล้วก็เริ่มๆ ลงทุนกับ AP และ Ananda ดังนั้นถ้าเพื่อนๆ ถามผมว่าซื้อคอนโดของบริษัทไหนดี ผมก็ต้องตอบแสนสิริเป็นส่วนใหญ่เนอะ ผมว่ามันเป็นการตอบที่จริงใจมากๆ เพราะมันคือบริษัท/คอนโดที่ผมซื้อลงทุนและซื้ออยู่เอง ถ้าบริษัทนี้ไม่ดีผมคงไม่ซื้อเองหรอก แล้วก็ผมไม่ค่อยกล้าแนะนำของที่ผมไม่ได้ซื้อหรอกครับ ถ้าใครรู้จักผมจริงๆ น่าจะรู้ดี ดังนั้นเวลาที่ผมเชียร์แสนสิรินี่ผมเชียร์จากใจอยู่แล้ว

ตอนโปรลื่นปื้ดผมซื้อ The Line พหลฯ-ประดิพัทธิ์ และ The Line สุขุมวิท 101 มา 3-4 ห้อง แล้วผมตั้งใจจะขายเร็วๆ หลังโอน ไม่ได้จะซื้อปล่อยเช่า (แต่วางแผนการปล่อยเช่าเป็นแผนสำรองครับ) เหตุผลที่ผมลงทุนสองโครงการนี้และมั่นใจว่ามีโอกาสขายได้เพราะมีองค์ประกอบ 5 อย่างตั้งแต่ โครงการดี, ซื้อตอนช่วงที่ราคาดี, ห้องที่เลือกมาเป็นห้องที่คนนิยม, คอนโดยังมีกระแสและได้เอเจนต์ที่ดีขายให้ ถ้าไม่มีข้อใดข้อนึงนี่ผมว่าขายไม่ได้นะ

1) คอนโดของแสนสิริเป็นที่นิยมอยู่แล้ว เนื่องจากคุณภาพและการบริการหลังการขาย คนที่คุยกับผมผ่านทางเพจส่วนมากก็สนใจคอนโดของแสนสิริอยู่แล้ว ส่วน The Line ทั้งสองโครงการนี้กระแสค่อนข้างดี มีเพื่อนๆ ถามเข้ามาตลอดเนื่องจากทั้งสองโครงการนี้มีจุดเด่นที่ชัดเจน ราคาก็สมเหตุสมผล The Line พหลฯ-ประดิพัทธิ์ เป็นคอนโดที่ส่วนกลางและ Landscape สวยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ส่วน The Line สุขุมวิท 101 ได้ห้องเพดานสูงและวิวที่ดี

2) ราคาและเวลาในการซื้อสำคัญมากๆ ผมว่าผมลงทุนกับแสนสิริมานานพอที่จะรู้ว่าช่วงเวลาไหนและราคาไหนควรเข้าซื้อ และพอจะเข้าใจแผนการในการขายของแต่ละโครงการอีกด้วย หลายคนชอบคิดว่ารอซื้อตอนโครงการเหลือไม่กี่ห้องน่าจะถูกที่สุด ผมบอกได้เลยว่าไม่ใช่เสมอไปครับ ตอนผมซื้อ The Line ราชเทวีจะมีช่วงที่ถูกอยู่แป้ปนึงแล้วกลับมาแพงใหม่ตอนปิดโครงการ

สำหรับสองโครงการนี้ตอนโปรลื่นปื้ดก่อนปิด Q1 ผมมั่นใจว่าเป็นจังหวะที่ดีที่สุดแล้ว ราคาห้องอาจจะพอๆ กันหรือแพงกว่าตอนนี้ที่เป็นช่วงปิดโครงการ แต่ว่าตอนนั้นมีห้องให้เลือกเยอะกว่า คนซื้อคอนโดแสนสิริเป็นกลุ่มที่ไม่เหมือนคนซื้อคอนโดที่อื่น หลายคนไม่ได้ดูที่ราคาอย่างเดียวเนื่องจากคนกลุ่มนี้มีกำลังซื้อและยอมจ่ายเพื่อให้ได้ห้องที่ดี ดังนั้นการเลือกห้องที่ดีมักจะสำคัญกว่าการเลือกห้องที่ถูก (สำหรับคอนโดแสนสิรินะครับ)

ถามว่าผมซื้อห้องได้ราคาดีกว่าคนปกติไหม? ปกติก็ต่อได้เพิ่มอีกนิดหน่อยเพราะผมเป็นลูกค้า Siri Priority ซื้อขายกันมาเป็นหลักร้อยล้าน (เฉพาะใบจองนะ) คงไม่แปลกที่แสนสิริจะดูแลผมบ้าง หรือบางครั้งผมซื้อเป็น Big Lot หรือซื้อที่ละหลายๆ ห้อง ทางโครงการมีราคาพิเศษให้บ้าง แต่ที่สำคัญผมกับแสนสิริดีลกับแบบมืออาชีพตลอด ผมแทบจะไม่เคยค้างค่างวด โอนตามกำหนด ห้องไหนทางโครงการบอกให้ขายหลังโอนก็ขายหลังโอน ไม่เคยแอบเอามาขายก่อน ไม่โพสต์ห้องขายที่ได้ราคาพิเศษลงเน็ต ผมว่าเรื่องความไว้ใจกันนี่สำคัญมากๆ

3) ตำแหน่งห้องก็สำคัญสำหรับการลงทุน แต่ผมต้องบอกเพื่อนๆ ตรงๆ ว่าการเลือกห้องอยู่เองกับการเลือกห้องเพื่อลงทุนมันไม่เหมือนกันนะครับ อย่างโครงการ The Line สุขุมวิท 101 ถ้าผมอยู่เองผมเลือกห้อง 33 ตรม. ทิศตะวันออกเพราะว่า เงียบ ลมเย็นและไม่ร้อน แต่ถ้าผมซื้อลงทุนผมเลือกห้อง 33 ตรม. ทิศตะวันตกชั้นสูงๆ เพื่อรับวิวบางกระเจ้า ร้อนหน่อยไม่เป็นไร ซึ่งห้องแบบนี้ก็เป็นห้องแรกๆ ที่ SOLD OUT ทำให้ผมมีโอกาสได้ขายต่อห้องที่ผมซื้อมา ส่วน The Line พหลฯ-ประดิพัทธิ์ ถ้าผมอยู่เองผมเลือกห้อง 33 ตรม. ทิศเหนือหรือทิศตะวันออก แต่ถ้าลงทุนผมเลือกห้อง 26 ตรม. ชั้นสูงๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดครับ ห้อง 26 ตรม. ขายดีที่สุด SOLD OUT ก่อนเพื่อน นานๆ มีหลุดมาที

4) Free Marketing ช่วยได้เยอะ ผมซื้อสองห้องนี้ในช่วงที่ห้องโครงการยังขายไม่หมด ในมุมนึงก็มีความยากเพราะต้องขายแข่งกับโครงการ (แต่ต้นทุนผมจะสูงกว่าเพราะมีทั้งค่าโอนและค่าภาษีอีกหลักแสน) อีกมุมนึงก็มีข้อดีเพราะยังมีคนเดินเข้ามาดูโครงการอยู่ตลอด สื่อต่างๆ ยังพูดถึงโครงการ ทำให้มี Potential Customers เข้ามาเรื่อยๆ โดยเฉพาะถ้าเราเลือกห้องที่โครงการขายหมดแล้ว แต่ถ้าเราไปซื้อห้องที่เป็นห้องสุดท้ายของโครงการ เวลาจะขายมันก็จะเงียบๆ หน่อย ขายยากกว่านิดนึง

5) ทั้งสองห้องผมไม่ได้โพสต์ขายเองเลยเพราะช่วงนี้ยุ่งมากๆ แล้วการขายห้องที่โอนแล้วก็ใช้เวลาเยอะอยู่ ผมใช้วิธีฝากเอเจนต์ที่ผมไว้ใจ อย่างที่ The Line พหลฯ-ประดิพัทธิ์ ผมฝากห้องกับทาง Plus Property Co., Ltd.ผ่านคุณน้ำทิพย์ แล้วได้คุณพัทมาขายให้ (แต่คุณน้ำทิพย์ก็ช่วยดูแลให้ตลอด) ส่วนที่ The Line สุขุมวิท 101 ได้คุณนิวที่เคยเป็นเซลล์ผมที่แสนสิริแต่ตอนนี้ย้ายไปอยู่ bangkokcitismart แล้วขายให้ ส่วนตัวผมไม่เคยรู้สึกเสียดายค่าคอมมิชชั่นในการขายผ่านเอเจนต์เลยครับ ผมมองว่ามันคุ้มมากๆ ที่มีคนช่วยจัดการเรื่องสัญญา, เรื่องการประสานงานกับคนซื้อและธนาคาร รวมถึงเรื่องการหาลูกค้า(ต้องพาลูกค้าไปดูห้องด้วยนะ) พูดง่ายๆ คือผมไม่ต้องทำอะไรเองเลย ที่สำคัญคือเอเจนต์ทุกคนนิสัยดีหมด เชื่อใจได้และมีความเป็นมืออาชีพสูง เวลาทำงานด้วยเหมือนทำงานกับเพื่อนที่ไว้ใจ ค่าคอมก็มองว่าเหมือนเป็นการขอบคุณเพื่อนที่ช่วยเหลือกัน ผมแนะนำทั้งสามคนเลยนะครับทั้งในการซื้อและการขาย (ทั้งสามคนมีห้องดีๆ ในมือเยอะ ห้องโครงการก็ขายได้) ดูแลกันได้ดีมากๆ

ประมาณนี้ครับเหตุผลที่ผมลงทุนกับสองโครงการนี้ของแสนสิริ มีอะไรแชร์กันได้ จริงๆ สองโครงการนี่ถ้าซื้ออยู่เองหรือลงทุนระยะยาวน่าจะคุ้มที่สุด แต่ที่ผมเลือกลงทุนแบบนี้เพราะมันเหมาะกับผมมากกว่า อันนี่ไม่มีถูกไม่ผิด แล้วแต่ความถนัดและเวลาที่แต่ละคนมี ส่วนถ้าใครจะซื้อคอนโดแสนสิริไม่ว่าจะซื้ออยู่เองหรือซื้อลงทุนทักมาพูดคุยกันได้ครับ ผมไม่เคยหวงมุมมองจากประสบการณ์จริงหรือ หวง connection ที่ผมมีเลย แนะนำกันมั่นใจว่าได้ราคาดีกว่าเดินเข้าไปซื้อเองนะ ที่สำคัญไม่ต้องห่วงว่าผมจะได้อะไรจากการพูดคุยกัน อย่างที่ผมบอกผมมองการลงทุนเป็นเกมและประสบการณ์ บางทีเงินใม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตหรอกครับ

อ้อในมุมใบจองช่วงนี้ก็ยังขายได้นะ พึ่งสังเกตว่าส่วนมากเป็น 2-Bed ทั้งนั้นเลย ตั้งแต่ Kawa Haus (Plus ขาย), The Base เพชรบุรี-ทองหล่อ (ขายเอง), The Line พหลโยธินพาร์ค (ขายเอง), Edge พัทยา (ขายเอง) มีแต่ Life ลาดพร้าว (Plus ขาย) ที่เป็น 1-Bed นะ ผมยังเชื่อนะว่าไม่ใช่ว่าต้องรอตอนตึกเสร็จเท่านั้นถึงจะได้ห้องที่ราคาดีที่สุด แต่ต้องเข้าใจแผนการตลาดและการตั้งราคาของโครงการนั้นๆ ด้วย เช่นคิดว่า The Base เพชรบุรี-ทองหล่อจะถูกกว่าตรม. ละ 9x,xxx หรอ?

ปล. โพสต์นี้ไม่ได้จะบอกว่าคอนโดแสนสิริลงทุนได้ทุกห้องทุกโครงการนะครับ ทุกอย่างต้องมีปัจจัยทั้ง 5 ข้อมาเกี่ยวข้องด้วย มีอะไรปรึกษาได้ครับ

Link to post >> https://www.facebook.com/1072231159607931/posts/1567382520092790/?extid=pADnPErBKP3zUbrr&d=n