แนะนำ 3 โครงการเด่นของอนันดา ที่เตรียมเปิดจองรอบ”ออนไลน์” พร้อมชี้ช่องห้องสวย
อนันดา ดีเวลอปเมนท์ ผู้นำอสังหาด้านการมองขาดชีวิตคนเมือง เตรียมเปิดตัว 3 โครงการคอนโดมิเนียมทำเลดีสุดๆในรอบหลายปี พร้อมๆกันหลังจากที่อั้นไม่เปิดโครงการใหม่มานานมากๆ
โดย 3 โครงการที่ว่าได้แก่ CULTURE CHULA , CULTURE THONGLOR 2 คอนโดทำเลเกินคำว่าพรีเมียม กับอีกหนึ่งคอนโดราคาพอซื้อง่ายในทำเลติดรถไฟฟ้า interchange ที่คนอยู่หนาแน่นสุดๆอย่าง IDEO RAMKHAMHAENG LAMSALI station
โดยเริ่มจากวันที่ 10/10 จะเป็นการเปิดจองคอนโดแบรนด์ใหม่อย่าง CULTURE
ซึ่งแบรนด์ CULTURE เป็นแบรนด์ใหม่ของอนันดา ที่ร่วมสร้างกับ SCRATCH FIRST ที่จะมาออกแบบคอนเซปท์ SOCIAL COMMUNITY SUSTAINABLE LIVING อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขด้วยความยั่งยืน
โดยเวลา 10 โมง เลขสวย 10/10 10 จะเป็นการเปิดให้จองโครงการ CULTURE THONGLOR
เป็นการจองชั้น 14 , 18 ที่เป็นชั้น SIMPLEX และชั้น 27 ที่เป็น HYBRID FLOOR เพดานสูง ในราคาเรื่มต้น 3.99 ล้านบาท ที่ชั้น 14 และทุกห้องในชั้นเป็น 1 price ) ราคาต่อตารางเมตร 159,000 บาท เท่านั้น !!!!! ถูกกว่าคอนโดปากซอยที่ห่างกันไม่ถึง 100 เมตร เกือบ 1 เท่า (ชั้น 18 ราคา 163,000 บาทต่อตารางเมตร , ชั้น 27 เป็น 172,500 บาทต่อตารางเมตร)
CULTURE THONGLOR ตั้งอยู่ในทำเลที่พรีเมียมสุดๆ ใกล้สถานี BTS ทองหล่อ โดยห่างจากทางขึ้นลง SKYWALK เพียง 250 เมตร
ตัวคอนโดตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 59 ซึ่งปากซอยมี 2 โรงแรมแบรนด์ world class แถมในซอยยังมีโรงแรมตึกสูงสร้างใหม่มาเปิดอีกแห่ง ซึ่งหนึ่งในสองโรงแรมเชนระดับโลก คือ ASCOTT ซึ่งทางอนันดาเปิดเอง และจะเอาเซอร์วิสเดินข้ามถนนมาให้บริการที่ CULTURE THONGLOR ด้วย
ด้านข้างติดกันเป็นอาคารอพาร์ทเมนท์สูง 22 ชั้น เทียบกันแล้วชั้น 23 ของ CULTURE วิวจะพ้นแล้ว
เป็นอาคารสูง 36 ชั้น (148 เมตร) ห้องพักอาศัย 493 ยูนิต บนที่ดินเกือบๆ 2 ไร่
แบ่งอาคารออกเป็นช่วงๆ ชั้น 1 เป็น FACILITY , ชั้น 2-10 เป็น AUTO PARKING รวมแล้ว 200 คัน , ชั้น 11 เป็นสระว่ายน้ำ 2 สระ ความยาวรวม 42 เมตร และห้อง FITNESS , ชั้น 12-19 เป็นห้องพักแบบ SIMPLEX , ชั้น 20 -36 เป็นห้องแบบ HYBRID เพดานสูง 4.3 เมตร ต่อเฟอร์นิเจอร์ เป็น 2 ชั้นให้แล้ว
ชั้น 33-34 นอกจากเป็นห้องพักยังจะ มี SKY FACILITY
การอยู่แบบยั่งยืน ทำให้คัลเจอร์ทองหล่อ ออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวปลูกต้นไม้ถึง 141 ต้น
LANDSCAPE ด้านหน้า (แลนด์สเคปออกแบบโดย TECTONIX)
co-living hall
สระ
SKY GARDEN
ต่อชั้นจะมีห้องพัก 21 ยูนิต ยกเว้นชั้น 33-36 จะมี 13 ยูนิต // ลิฟท์ 3+1 ตัว
ห้องพักวางผังหันหน้าไปทุกทิศให้เลือกตามแต่ชอบ ซึ่งก่อนจะไปศึกษาแปลน มาเปิด SALES GALLERY กันก่อนครับ
ตั้งอยู่ที่บนด้านหน้าของที่ดินจริงที่จะก่อสร้าง และพื้นที่หลักของสำนักงานขายจะไม่ใช่พื้นที่ของโครงการ มีต้นไม่ใหญ่ร่มรื่นสวยงาม จัดวางความเป็น SUSTAINABLE COMMUNITY ให้ดูด้วย
MODEL อาคาร
ห้องตัวอย่างด้านในมีทั้งแบบ SIMPLEX ( studio 26 ตารางเมตร , 1 bedroom 32 ตารางเมตร) และ HYBRID ( 27.5 ตารางเมตร) ซึ่งเป็นห้องแบบทรงยาว แต่เปิดมุมมองด้วยกระจกเข้ามุมต่อเนื่องในทุกยูนิต และมีเฟอร์นิเจอร์แพกเกจด้วย
STUDIO 26 ตารางเมตร
1 BEDROOM 32 ตารางเมตร
HYBRID 27.5 ตารางเมตร เพดาน 4.3 เมตร
ส่วนตัวผมชอบแบบนี้เอา VOID ไปติดอากาศ มันได้อารมณ์กว่าเอา VOID มาด้านในเยอะเลยครับ
ห้องตัวอย่างตกแต่งได้ดีเลยครับ ใช้กระจกเงามาแปะผนังทำให้ไม่ได้รู้สึกว่าห้องเป็นทรงซองลึกสักเท่าไหร่ ในทางกลับกันผมว่ามันให้ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย เพราะตำแหน่งห้องนอนจะลึกเข้าไปจากประตูหน้าห้องพอสมควร
ONLINE BOOKING !!!!!
10/10 เวลาเริ่ม 10 โมง ไปจนถึงบ่าย 2 มีให้ซื้อ 63 ยูนิตเท่านั้น ใช้เงินจอง 20,000 – 100,000 บาท
รายละเอียดการจ่ายเงิน
ศึกษาแปลน (ผมจะเรียกทิศตามเข็มของแปลนทางการที่อนันดาจัดทำนะครับ)
ด้านที่วิวโล่งคือทิศตะวันออกเฉียงใต้ ด้านหลัง และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้านหน้าที่เบี่ยงหลบตึก ASCOTT ของอนันดาเองได้แบบพ้นๆ ส่วนทิศตะวันตกเฉียงใต้จะเป็นวิวตึกสวยๆปากซอยที่ห่างกันประมาณ 90 เมตร และที่ต้องรู้เลยคือด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดตึกระยะประชิดในชั้นที่ต่ำกว่า 23
FLOOR PLAN SIMPLEX
(ถ้าเอาไปเทียบกับ master plan ด้านบน ต้องบิดทวนเข็มไป 90 องศานะครับ)
ห้องที่เอามาเปิดจอง มี 21 ยูนิตต่อชั้น มี STUDIO 10 ยูนิต , 1 BEDROOM 9 ยูนิต , 2 BEDROOM 2 ยูนิต
ราคาคิดง่ายๆ one price 159,000 บาทต่อตารางเมตรในชั้น 14 และ 163,000 บาทต่อตารางเมตรในชั้น 18 ห่างกัน 4 ชั้น ราคาต่างกัน 4พันบาทต่อตารางเมตร หรือเท่ากับ 96,000 – 206,000 บาท ในราคาครวม
ห้องSTUDIO มีทุกทิศ มีขนาด 24 , 25.5 , 26 และห้องแบบพิเศษ 27.5 ตารางเมตร ที่จะอยู่ฝั่งด้านหน้าตะวันตกเฉียงเหนือ
ข้อแตกต่างของห้อง 27.5 ตารางเมตรกับห้องอื่นคือห้องจะยาวกว่า ทำให้ได้ห้องน้ำไม่เหมือนใคร จะจัดเรียงด้านในกันเป็นหน้ากระดาน ตั้งแต่อ่างล้างหน้า สุขภัณฑ์ และ ห้อง SHOWER และที่พิเศษคือมีตู้เก็บของเพิ่มมาให้ ด้วยราคาต่อตารางเมตร 159,000 บาทต่อตารางเมตรในชั้น 14 และ 163,000 บาทต่อตารางเมตรในชั้น 18 ถ้าเทียบกับห้องเล็กสุดที่ 24 ตารางเมตรเท่ากับจ่ายเพิ่ม 556,000 และ 570,500 บาท ถ้าเทียบกับห้อง 25.5 ตารางเมตรคือส่วนต่าง 318,000และ 326,000 เพื่อให้ได้ตู้และห้องน้ำที่ใช้งานง่ายกว่า และวิวพรีเมียมด้านหน้าโครงการ ซึ่งด้านนี้โถงทางเดินจะมีหน้าต่างช่องแสง 2 ช่อง โปร่งกว่าฝั่งอื่น
แต่ห้องฝั่งนี้ก็มีมีข้อเสียคือจะอยู่ใกล้โถงลิฟท์ และประตูอยู่ติดกันแบบตั้งฉากกับประตูห้องข้างๆ
ถ้าเทียบกันในห้อง STUDIO ผมมองว่าถ้าไม่ได้ชอบความพรีเมียมของ 27.5 ตารางเมตร และโอเคกับการที่มีเสามาทำให้ห้องเป็นเหลี่ยมมุม ห้อง 24 ตารางเมตร วิวด้านหลังโล่งตลอด น่าสนใจในการซื้อมากกว่าครับ ราคาดีกว่าเยอะด้วยยยย
ส่วนห้องสตูดิโอ 25.5 – 26 ตารางเมตร จะอยู่ด้านข้างของโครงการ ซึ่งด้านตะวันออกฉียงเหนือต้องเรียนตามตรงว่า เป็นวิวของตึก SHANTI ข้างๆในระยะห่างประมาณ 12 เมตร ส่วนอีกด้านผมว่าวิวสวย โล่งกว่า น่าซื้อกว่า น่าแปลกที่อนันดาไม่เอาราคามาช่วยดันฝั่งวิวตึก SHANTI
ดังนั้นคนซื้อ STUDIO รอบออนไลน์ ให้น้ำหนักกับห้องอีก 3 ทิศดีกว่านะ
1 BEDROOM TYPE มีขนาด 31 , 31.5 , 32 และห้องพิเศษ 34 ตารางเมตร ซึ่งห้อง TYPE นี้จะอยู่ที่ด้านหน้าเป็นส่วนมากและด้านหลังโครงการ
ในห้องแบบนี้ผมเชียร์สุดๆที่จะจ่ายเพิ่ม 318 ,000 – 489,000 บาท เพราะได้เป็นห้องมุม ,ได้หน้าต่างพิเศษอีกด้านเป็นห้องหน้าต่าง 2 ทิศ , และยังได้ห้องน้ำขนาดใหญ่ขึ้นมีหน้าต่างในห้องน้ำ รวมถึงการที่ประตูหน้าห้องอยู่ติดหน้าต่างตรง CORRIDOR จะโปร่งและรู้สึกดีมากๆทุกครั้งที่เข้าออกจากห้อง
ส่วนห้อง 1 BEDROOM ที่ผมชอบน้อยกว่าห้องอื่น คือห้องที่ต้องบิดประตูเข้าห้องไปด้านข้าง นอกจากจะติดกับประตูห้องข้างๆแล้วยังตรงกับประตูเข้าห้องน้ำของตัวเอง และอีกห้องที่บางคนอาจไม่ชอบคือห้องฝั่งด้านหลังตำแหน่งตรงกลางที่มีประตูทางเข้าตรงข้ามกับทางเข้าห้องขยะ (แต่ส่วนตัวผมเฉยๆนะ ชอบด้วยซ้ำใกล้ดีไม่ต้องถือไปไกลๆ)
ห้อง 2 BEDROOM มี 2 ห้องอยู่ที่มุมด้านหลังซึ่ง ห้อง 10 จะมีวิวฝั่ง LIVING ที่โล่งกว่า
ชั้น 27 ราคาต่อตารางเมตร 172,500 บาท แต่เป็นราคาที่ต้องคิดคำนวนพื้นที่ต่อตารางเมตร แบบทั้งห้องรวมส่วนเฟอร์นิเจอร์ต่อเติมด้วย อย่างเช่นห้อง 25 ตารางเมตร จะมีพื้นที่ชั้นลอย 10 ตารางเมตร รวมแล้วราคาคือ 172,500 x (25+10) = 6.0375 ล้านบาท
ดังนั้นถ้าคำนวนในสมมติฐานที่ว่า อัตราส่วนพื้นที่ชั้นลอยต่อห้องเทียบเท่ากันในทุก TYPE จะเท่ากับชั้นนี้มีราคาต่อตารางเมตรที่แท้จริงตามโฉนดคือ
6.0375 ล้าน / 25 = 241,500 บาท ต่อตารางเมตร ในห้องสตูดิโอ
7.935 ล้าน / 32 = 247,969 บาทต่อตารางเมตรในห้องแบบ 1 BED
และ 12.075 ล้าน / 51 = 236,764 บาทต่อตารางเมตร ในห้อง 2 BED
ซึ่งความพรีเมียมที่เพิ่มขึ้นมาจากการได้ครอบครองห้อง 2 ชั้นเพดานสูงทำเลใกล้ BTS ทองหล่อ ประมาณ 78,xxx บาทต่อตารางเมตร เมื่อเทียบกับห้องตำแหน่งเดียวกันชั้น 18 หรือเท่ากับเพิ่มห้องละ 1,95x,xxx – 4,000,000 บาท และได้ชั้นสูงที่วิวโล่งพ้นทุกด้านแล้ว ส่วนตัวผมว่าคุ้มค่านะสำหรับคนที่อยากเก็บห้องเพดานสูง ทำ 2 ชั้น ในทำเลนี้
เอาง่ายๆเทียบกับคอนโดใหม่ที่กำลังก่อสร้างกลางๆซอย ห้องแบบนี้ถูกสุดก็ 10 ล้านกว่าๆแล้ว
ห้อง STUDIO จะมีทุกด้านทุกทิศเหมือนชั้น simplex แต่ที่ต่างคือ ราคาห้องที่เพิ่มขึ้นมาจากขนาดห้องจะต่างกันเป็นจำนวนที่มากกว่า อย่างห้อง 25.5 ตารางเมตรจะสูงกว่า 24.5 ตารางเมตร ประมาณ 24x,xxx บาท และยิ่งต่างถ้าเทียบกับห้อง 26.5 ตารางเมตร ที่ต้องเพิ่มเงินเกือบๆ 5 แสน ( ถ้า simplex จะเพิ่มสามแสนกว่าๆ)
ดังนั้นผมว่าห้อง 24 ตารางเมตร น่าสนใจครับอยู่ด้านหลังวิวโล่งด้วย
ห้อง 1 BED ในชั้น HYBRID จะมีเฉพาะฝั่งด้านหน้าโครงการเท่านั้น แน่นอนครับห้องมุมหน้าต่าง 2 ด้าน และเป็นหน้าต่างที่ทั้งใหญ่และสูง อลังการสุดๆกับเงินเพิ่มแค่เกือบๆ 5 แสน จาก 7.935 ล้านเป็น 8.4xx ล้านบาท ไม่ต้องคิดครับจิ้มห้องมุมแน่ๆถ้างบถึง (นอกจากคุณจะมีข้อจำกัดเชิงจิตวิทยาของราคา ที่จาก 7 เปลี่ยนเป็น 8 ล้าน)
แต่ที่น่าซื้อที่สุด ถ้าถามผมนะ คือ 2 BEDROOM HYBRID แบบ 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยรวม 70 ตารางเมตร ราคาขาย 12.075 ล้าน
จ่าย 12 ล้านได้ห้องหน้ากว้าง 2 ชั้น กระจกบานเต็มบนทำเลนี้ อีกอย่างทั้งโครงการมีแค่ 34 ยูนิต
อนันดารู้ว่านักลงทุนระยะสั้นน่าจะเข้าเยอะ เลยออกเงื่อนไขจ่ายเงินจองและทำสัญญาหนักกว่าห้องอื่น เป็นเท่าตัวๆ คาดว่าจะตัดนักเก็งกำไรออกไปได้พอสมควร ถ้าใครสนใจจริงอย่าลืมกดจองกันนะครับ
โครงการต่อมาคือ CULTURE CHULA
ที่จะเปิดจอง 10/10 11 โมงจนถึงบ่าย 3 ทิ้งช่วง 1 ชั่วโมงจากตัวทองหล่อ เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่อยากซื้อทั้ง 2 ที่
ได้ลงสนามด้วยไม่ต้องเลือกที่ใดที่หนึ่ง
เมื่อสร้างเสร็จจะโดดเด่นเมื่อมองจากสวนลุม
คอนโดใกล้ BTS ศาลาแดงและ MRT สามย่านแห่งนี้ ติดถนนสองด้านคือทางเข้าหลักฝั่งพระราม4 และอีกด้านเป็นทางเดินคนเข้าออกฝั่งสุรวงศ์ ใช้ชื่อจุฬา ผมว่าได้และเหมาะสมเพราะข้ามถนนพระราม 4 ไปคือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬา (ก็ห่างออกไปจากจุฬา 500 เมตร ยังมีโครงการใช้ชื่อว่าจุฬาเลยครับ)
เป็นคอนโด 32 ชั้น 614 ยูนิต บนที่ดิน 2-1-66 ไร่
ที่สำคัญคือทุกยูนิตเป็นห้องเพดานสูงแบบ HYBRID !!!!!! ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท
เป็นโครงการที่ 4 ของอนันดาบนทำเลจุฬา สามย่าน ต่อจาก IDEO Q ยานแม่ , ASHTON , IDEO CHULA SAMYAN
แม้โครงการ ideo chula samyan ที่ขายไป 80% แล้ว (โครงการอื่น SOLD OUT หมด) จะมีห้อง HYBRID ที่เพดานสูงมากๆ แต่ก็มีที่ชั้นบนสุดเพียงไม่กี่ห้อง
CULTURE CHULA ก็เน้น SUSTAINABLE LIVING เช่นเดียวกัน โดยตึกออกแบบมาสูง สวย และแทบไม่มีห้องไหนโดนบล็อกวิว ถ้าดูจากภาพด้านล่างจะเห็นว่าตัวอาคารบิดองศาหลบทุกมุมบล็อกได้
ภาพมุมสูงแปะกับแปลน กลุ่มอาคารหลังคาแดงๆไม่ใช่วัดนะครับ เป็นส่วนรีเทลของโรงแรม
MASTER PLAN
สระว่ายน้ำถูกดันขึ้นไปที่ชั้นบนสุด เป็นอีกสิ่งที่บอกได้ว่าตึกนี้ไม่ได้มาแบบเน้นทำสงครามราคาเหมือนตัวทองหล่อ
เปิดจอง ONLINE ชั้น 7 และ 13 เพียง 63 ยูนิตเท่านั้น
ห้องพักที่นี่หันตะวันตกเฉียงใต้ และ ตะวันออกเฉียงเหนือเป็นหลัก โดยมี 4 ห้องที่หันทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
วิวด้านต่างๆจะประมาณนี้
ลิฟท์ 4+1 ตัว ต่อชั้นสูงสุด 32 ยูนิต
ซึ่งที่นี่จะมีการลดระดับเป็นขั้นบันได ตามความสูงของอาคาร ชั้นยิ่งสูงห้องยิ่งเหลือน้อย
รอบ ONLINE จองชั้น 7 และ 13 ซึ่งเป็นรอบที่เค้าว่าราคาดีที่สุด
ชั้น 7 เป็นชั้นแรกของชั้นพักอาศัย ซึ่งเป็นชั้นพิเศษที่มีสวนในชั้น มีห้องที่ชั้นนี้ 31 ห้อง น้อยกว่าชั้น 13 หนึ่งห้อง เพราะว่าห้องเบอร์ 31 ของชั้นนี้ ยุบรวมกับห้องเบอร์ 32 และต้องเฉือนส่วนด้านหน้าเป็นทางออกไปที่สวนส่วนกลาง ทำให้ห้องนี้เป็นห้องหน้าสวนแบบ RARE UNIT มีขนาด 58.5 ตารางเมตร
ส่วนห้องชั้น 13 มีจำนวน 32 ยูนิต ห้อง 1 BED พิเศษตำแหน่ง 32 มีพื้นที่ 35 ตารางเมตร แปลกกว่าใครในชั้นด้วยโถง FOYER เพิ่มพิเศษก่อนจะหักศอกเพื่อเข้าสู่พื้นที่ห้อง
ทั้ง 2 ชั้น เป็นห้องแบบ HYBRID เพดานสูง มากกว่าครึ่งเป็นห้อง STUDIO (มีถึง 17 ห้อง) พื้นที่ตามโฉนด 24.5 – 26 ตารางเมตร
ส่วนใหญ่เป็น STUDIO แบบ A1 ที่มี VOID ติดอากาศ รวมพื้นที่บนล่างแล้วได้ราวๆ 36 ตารางเมตร ควรระวังห้องเบอร์ 17,18 เพราะอยู่หน้าห้องเก็บขยะ (ซึ่งส่วนตัวผมโอเคกับห้องแบบนี้นะ ใกล้ดี) และห้องเบอร์ 19 ที่ตรงกับโถงลิฟท์พอดี
จะมีเพียงชั้นละ 2 ห้อง ที่ได้เป็น HYBRID แบบ A2 ที่เอา VOID มาอยู่ด้านหน้า ที่เค้าเรียกว่าเป็น 1 BED PLUS อยู่ที่ห้องเบอร์ 21 และ 22 เอาใจคนเน้นพื้นที่ใช้สอย
โดยยังมีห้อง STUDIO สุดแปลกขนาดใหญ่สุด 26.5 ตารางเมตร TYPE A3 มีชั้นละห้องอีกด้วย เป็นห้องที่มีห้องน้ำบิดองศาจากห้องอื่น 90 องศา เพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้านใน
ห้องแบบ 1 BEDROOM 32-33 ตารางเมตร
ชั้น 7 จะยุบรวมคู่นึงเป็น 2 BED เลยมีเพียง 11 ห้อง ส่วนชั้น 13 มี 13 ห้อง และอย่างที่บอกไปแล้วข้างต้นคือห้องเบอร์ 1332 เป็นของแปลก
1 BED ทุกห้องจะหันทิศไปตะวันออกเฉียงเหนือ ได้วิวจุฬาและสวนลุม
ห้องแบบ B1 มีจำนวน 4-5 ห้อง เป็นห้อง 1 BED PLUS ที่ดันครัวไปติดหน้าต่าง
ที่น่าสนใจคือห้องแบบ B2 มีชั้นละ 5 ห้องตำแหน่ง 01-05 ขนาดพื้นที่ด้านล่างเล็กกว่าห้อง B1 นิดหน่อย แต่ทำได้ถึง 2 ห้องนอน ขนาดพอๆกัน แต่ตำแหน่งของ VOID จะอยู่กลางห้องไม่ติดอากาศ ไม่ใช่ตรงโถงนั่งเล่น อาจเสียความ LUXURY ไปบ้าง
ต้องระวังห้องเบอร์ 01 กับ 02 เนื่องจากมุมมองค่อนข้างจะบีบจากปีกอาคารตัวเอง
ห้อง 2 BED 2 BATH ขนาดพื้นที่ด้านล่าง 42.5 ตารางเมตร มีชั้นละ 1 ห้อง และเป็น 2 BED 2 BATH ที่มีพื้นที่ตามโฉนดเล็กที่สุด ราคาก็น่าจะถูกที่สุดด้วย แปลนห้องดูดีมากๆ VOID ใหญ่ติดอากาศ หน้าต่างยาวต่อเนื่อง ในห้องนอนได้หน้าต่าง 2 ทิศ เป็นห้อง HYBRID ที่มีห้องน้ำทั้งด้านบนและด้านล่าง
TYPE D ขนาด 48-51 ตารางเมตร เป็น 2 BED ที่อยู่มุมทั้ง 2 ของอาคาร วิวหลักคือฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ
VOID จะใหญ่มากๆ และมีถึง 2+1 ห้องน้ำ ได้หน้าต่างเข้ามุมและได้หน้าต่าง 2 ทิศ ที่พื้นที่ LIVING รวมถึงได้ห้องนอน MASTER เพดานสูงถึง 4.3 เมตร
การวางผังเหมือนห้อง 2 BED HYBRID ที่คุ้นเคยที่ให้อารมณ์ LUXURY สุดๆตอนอยู่จริง
ยังมีห้องใหญ่พิเศษอีกที่เบอร์ 06 ที่น่าจะทำได้ถึง 3 ห้องนอน (รอข้อมูล)
ที่นี่เน้นขายความพรีเมียม ถ้าจะลงทุนทำเลนี้ต้องแล้วแต่ชอบและงบประมาณเลยครับ เมื่อศึกษาจาก ASHTON CHULA ที่อยู่ข้างๆกัน ห้องที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายเปลี่ยนมือ จะเป็นห้องเล็กและห้องใหญ่ไปเลย มากกว่าห้องขนาดกลางๆ
แปลนห้องแปลนอาคารก็หลากหลาย ถ้าไม่ได้อยากจองรอบ ONLINE ที่ราคาดีสุดๆรอไปจองชั้นอื่นห้องแบบอื่นที่ถูกใจกว่าก็ไม่เสียหายอะไร แต่มั่นใจได้ว่าชั้น 13 ที่มาเปิดจองรอบนี้ ราคาดีสุดๆอยู่แล้วด้วยพื้นฐานและพลานุภาพของเลข LUCKY NUMBER ซึ่งเอาจริงๆคนจีนไม่ได้ใส่ใจนะครับ ( สนใจเลข 4 มากกว่า)
โครงการ IDEO RAMKHAMHAENG
เปิดจองรอบออนไลน์วันที่ 11/10 เริ่ม 10:00 ไปจนถึงบ่ายสอง โดยเปิดจองชั้น 8,14,29
IDEO RAMKHAMHANEG LAMSALI station เป็นคอนโดสูง 35 ชั้น (137.85 เมตร) 737 ยูนิต บนที่ดินขนาด 2-3-87.7 ไร่
ที่จอดรถแบบช่องจอด 274 คัน (37%)
ชั้น 8-25 เป็นห้องแบบ SIMPLEX
ชั้น 26-35 เป็น HYBRID เพดานสูง
จุดเด่นที่แตกต่างคือสระว่ายน้ำ อยู่ชั้น 1 ด้านหน้าโครงการฝั่งติดถนนรามคำแหงเลย และฟิทเนสก็อยู่ถัดเข้าไปในอาคารด้านหน้าๆ คอยต้อนรับกลับบ้าน
ภาพสระ ซึ่งที่นี่มี 2 สระ แทรกตัวอยู่ในสวนให้ความรู้สึกว่ายน้ำในรีสอร์ต
ดูจาก MODEL
ฟิตเนสก็อยู่ชั้น 1 ในอาคารด้านหน้าตึกเลยครับ
LOBBY สีน้ำเงิน
ชั้น 8 มีสวนแทรกในชั้นพักอาศัย
ตามชื่อคอนโดเลยครับ ที่นี่อยู่ริมถนนรามคำแหง ห่าง 50 เมตรจากสถานีแยกลำสาลี(ใต้ดินสายสีส้ม) เชื่อมต่อสีเหลือง (ยกระดับ) และสีน้ำตาลในอนาคต จากตรงนี้นั่ง 7 สถานีไปที่ศูนย์วัฒนธรรม
ภาพนี้ดัดแปลงจากเวปสายสีส้มที่แสดงความคืบหน้าก่อสร้าง
ด้านหลังเป็นคลองแสนแสบ (แต่โครงการไม่ได้ติดคลอง) ทำให้จะได้ดูวิวคลองสวยๆแน่นอน และ IDEO ยังเป็นคอนโดสูงแบบโดดๆไม่บล็อกวิว ทั้งๆที่สถานีนี้มีคอนโดใหม่ขึ้นเยอะ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่เลยไปอีกบล็อก
พาดูห้องตัวอย่าง
ห้องแรกคือ 1 BEDROOM 34.5 ตารางเมตร เป็นห้อง PLUS ที่มี double access bathroom
ห้องที่ 2 เป็น ONE bedroom ขนาด 31 ตารางเมตร ครัวติดอากาศ แยกห้องนอนเป็นสัดส่วนมีประตูไม้ปิดทึบให้ความเป็นส่วนตัวกว่า
ห้องที่สามเป็น HYBRID เพดานสูง ขนาดพื้นที่ด้านล่าง 31 ตารางเมตร ห้องนี้สวยมากกกกกก
รอบ ONLINE เปิดชั้น 8,14,29 ราคาเริ่ม 1.69 ล้านบาท คิดเป็นต่อตารางเมตรเท่ากับ 70,xxx บาท เท่านั้น (ราคาดีเลยนะครับเนี่ย)
ศึกษาแปลนอาคารกันก่อน ห้องส่วนใหญ่จะวางตัวหันหน้าไปตะวันตกและตะวันออก โดยมีห้องด้านหน้าหันทิศใต้ เป็นห้องแบบพิเศษที่เป็นห้องมุมเฉียงสุดล้ำ
วิวเรียกได้ว่าโล่งทุกด้าน ยกเว้นชั้น 8 ที่มีประมาณ 3ห้องโดนบังจากอาคารข้างเคียงที่สูง 9 ชั้นฝั่งตะวันออก
ฝั่งทิศเหนือและตะวันตกมีที่ว่างอยู่แต่ถึงเจ้าของที่จะสร้างตึกขึ้นมาก็ไม่โดนบังแต่อย่างใดด้วยขีดจำกัดความสูง
แปลน ชั้น 8 (จะหมุน 180องศากับภาพด้านบนนะครับ ) เป็นชั้นที่มีสวน
มี 25 ยูนิต ยูนิตเบอร์ 02, 07 หายไป
ชั้น 8 มีระดับความสูง 24.85 เมตร ถ้ารวมความสูงระดับดวงตาของคนพักอาศัยประมาณ 1.5 เมตร ดังนั้นมุมมองจะสูงที่ 26 เมตรกว่าๆ สูงกว่าตึก low rise ที่มีขีดจำกัดที่ 23 เมตร
ชั้น 14 มี 26 ยูนิต ห้อง 02 หายไป
ห้อง STUDIO มีขนาด 24 ตารางเมตร ต่อชั้นจะมี 8 ห้อง ซึ่งห้องส่วนมากจะหันไปทิศตะวันตก มองเข้า CITY ชั้น 8 ห้องเบอร์ 817,818 วิวอาจใกล้หลังตาตึก CUBE ที่สูง 8 ชั้น ไปหน่อยแต่ไม่ได้บล็อกวิว
ทุกห้อง 24 ตารางเมตรหมด แต่มีข้อแตกต่างที่การ MIRROR และตำแหน่งของเสา (ดูได้จากยูนิตแปลน)
ของหายากคือห้องตำแหน่ง 21 ที่เป็นห้อง STUDIO ห้องเดียวต่อชั้นในด้านทิศตะวันออก วิวโล่งซะด้วย
และห้องของแปลก ที่น่าสนใจมากๆ คือห้องทรงมุมป้านเปิดมุมมองหันออกทิศใต้ด้านหน้าอาคาร เบอร์ 05,06 ชั้น 8 จะเห็นวิวสระหน้าโครงการชัดกว่าชั้น 14 ที่ต้องรู้คือห้อง 06 หัวเตียงหันตะวันตก ถ้าใครเชื่อเรื่องโชคลางควรหลีกเลี่ยง)
ห้อง STUDIO ชั้น 8 ราคา 1.69 – 1.77 ล้าน ส่วนชั้น 14 ราคา 1.79-1.93 ล้าน เป็นผมจะซื้อชั้น 14 นะยกเว้นห้องพิเศษมุมป้านฝั่งด้านหน้า ที่จะเลือกซื้อชั้น 8 เน้นวิวสระ โดยราคาน่าจะเป็น 1.77 ล้าน แพงขึ้นแค่ 8 หมื่นบาทจากห้องอื่นในชั้นที่ขนาดเท่ากัน
ห้อง 1 BEDROOM 31 – 34 ตารางเมตร
ห้อง 31 ตารางเมตรแต่ละ TYPE แทบไม่มีอะไรแตกต่างยกเว้นการ MIRROR กันและขนาดของห้องน้ำและระเบียงที่ใหญ่เล็กกว่ากันนิดหน่อย ฝั่งตะวันตกคือเบอร์ 09 ฝั่งตะวันออกคือเบอร์ 22,23,24,25
ชั้น 8 ราคา 2.21-2.23 ล้านบาท ห้องเบอร์ 23,24,25 วิวน่าจะติดตึก 9 ชั้น แต่พอมองเฉียงลอดไปได้ ฝั่งตะวันตกเบอร์ 09 น่าสนใจ เพราะเป็นห้องขนาดนี้ห้องเดียวในด้านนั้น และวิวโล่ง //ชั้น 14 ไม่มีปัญหาด้านวิวแต่อย่างใด
ห้องมุมป้าน 31.5 ตารางเมตร เป็นอีกห้องที่น่าสนใจโดยรอบนี้จะหาซื้อได้เพียง 1 ห้องที่ชั้น 14
ที่ผมเชียร์และมองว่าน่าซื้อสุดๆคือห้อง 33 ตารางเมตรห้องมุม เบอร์ 19,20 ที่น่าจะได้หน้าต่าง 2 ทิศ (แอบมีหน้าต่างเล็กๆที่ living อีกบาน)
1 BED PLUS ขนาด 34.5 ตารางเมตร แบบ TYPICAL จะมี 6 ห้องต่อชั้น หันไปทิศตะวันตก 4 ห้อง ซึ่งวิวจะโล่งกว่า ฝั่งตะวันออกที่มี 2 ห้อง และมุมมองจะติดปีกตึกตัวเอง ถ้าชั้น 8 ห้องด้านนี้ 826,827 จะเป็นห้องวิวสวนติดสวน ไม่ได้ติดอากาศ ถ้ามีเพื่อนบ้านมาใช้สวน คนอยู่ในห้องจะขาดความเป็นส่วนตัว ห้อง PLUS จะอยู่ติดระเบียงและได้ double access bathroom
1 BED PLUS มุมป้าน เบอร์ 04 เป็นห้องแบบพิเศษหันด้านหน้าโครงการ มีชั้นละ 1 ห้อง เช่นกันครับผมว่าชั้น 8 วิวสระน่าสนใจกว่าชั้น 14
ราคาห้อง 34.5 ตารางเมตร รอบ online อยู่ที่ 2.42-2.78 ล้านบาท
ห้อง 03 (B6) กับ 08(ฺB5) เป็นห้อง one bed plus ที่แตกต่างจากห้องอื่น
ห้อง 03 ขนาด 40 ตารางเมตร เป็นห้องมุมป้านที่อยู่เป็นห้องมุม ได้หน้าต่าง 2 ด้านมีหน้าต่างเพิ่มที่ห้อง living ใหญ่ขนาดเอาห้อง PLUS มาทำเป็นห้องนอนได้ ได้ห้องครัวปิดแบบจริงจัง แต่ห้อน้ำไม่ใช่ double access เพิ่มเงินจากห้องปกติไม่เกิน 5 แสนบาท ก็ประมาณ 3 ล้านต้นๆ เป็นอีกห้องที่น่าสนใจมาก มีแค่ชั้นละ 1 ห้องด้วย
ห้อง 08 ก็สวยครับ ขนาด 34.5 ตารางเมตร เป็นห้องพลัสที่ไม่มีห้องพลัส ได้ครัวปิดมีบานเลื่อน พื้นที่ living ใหญ่ในราคาพอๆกับห้อง typical จุดเสียคือประตูเข้าห้องจะตรงกับ corridor
2 BED 2 BATH ห้องเบอร์ 01 มีชั้นละ 1 ห้องหันหน้าไปทางทิศเหนือ ซึ่งชั้น 8 จะติดสวนเป็นวิวสวน ราคาขายรอบออนไลน์ 3.7-4.1 ล้านบาท
ชั้น 29 เป็นชั้น HYBRID มี 27 ยูนิต เป็นห้องเพดานสูง ราคา 2.99 – 4.38 ล้านบาท วิวโล่งทุกห้อง
ห้อง HYBRID น่าซื้อสุดๆเลยครับ ถ้าดูจาก IDEO RAMKHAMHAENG RAMA9 ห้องแบบนี้จะได้รับความนิยมมากๆ
ห้อง 2 BED ขนาดใหญ่ของ SIMPLEX เอามาซอยเป็น 2 ห้อง 25.5 กับ 26.5 ตารางเมตรตามโฉนด ห้อง 01 ของ ชั้น HYBRID เป็นห้องที่แปลนแปลกกว่าห้องอื่น คือด้านหน้าห้องจะกว้างกว่าด้านใน สวยแกรนด์ดีครับ
ดูจากโมเดลแล้วห้อง PLUS 34.5 ตารางเมตร ฝั่งติดอากาศที่ไม่ใช่ระเบียง กระจกไม่ได้ยาวต่อเนื่องแฮะ สงสัยเป็น TYPE มี VOID แค่ครึ่งห้อง
เพดานห้องปกติ 2.75 เมตร *
ภาพจำลองเมื่อตึกเสร็จจาก EIA
ทั้ง 3 โครงการ สำนักงานขายเปิดแล้วไปดูของจริงประกอบการตัดสินใจ แล้วมาจองออนไลน์กัน กับราคาที่ทางอนันดาบอกว่าดีที่สุด
EIA ผ่านเรียบร้อยมีเอกสารที่เราเข้าถึงได้ 2 โครงการคือ รามคำแหงและทองหล่อ ส่วน chula ก็น่าจะผ่านแล้วเช่นกัน
10 – 11 ต.ค. นี้ห้ามพลาด 10 โมงเช้าเป็นต้นไปเปิดจองพร้อมกัน
โอกาสเดียวที่ให้คุณได้เป็นเจ้าของคอนโดใหม่ได้ก่อนใคร
ราคาดี ยูนิตสวย จองออนไลน์ได้ง่ายๆที่ 𝗔𝗡𝗔𝗡𝗗𝗔 𝗢𝗡𝗟𝗜𝗡𝗘 𝗕𝗢𝗢𝗞𝗜𝗡𝗚
10.10.10 , 11.10.10