WE ARE THE BLOGKER

October 22, 2021
14893
ธปท. ประกาศข่าวดี ผ่อนคลาย LTV ทลายข้อจำกัดการกู้ กระตุ้นอสังหาโค้งสุดท้าย 2564 พร้อมคาดการณ์อีก 4 ปีตลาดถึงกลับมาเหมือนเก่า //อนันดารับลูกทันที ส่งโปรกระชากใจ

รีวิว
สรุป

*LTV = LOAN TO VALUE หมายความว่าจะกู้เงินจากสถาบันการเงินได้เท่าไหร่จากราคาประเมิน​​ ธปท ออกกฏนี้มาเพื่อสกัดการเก็งกำไร

ข่าว ธปท. ​ฉบับที่  75/2564

เรื่อง  ธปท. ผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์

นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ที่ยืดเยื้อ แม้มีแนวโน้มจะทยอยฟื้นตัวได้จากความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนและการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด ทำให้เปิดประเทศได้เร็วกว่าคาด แต่การฟื้นตัวยังเปราะบางจากความไม่แน่นอนสูงและฐานะการเงินของบางภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบหนัก โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาวะซบเซาจากอุปสงค์ที่อ่อนแอและภาคก่อสร้างที่ได้รับผลจากการระบาด ธปท. ประเมินแล้วเห็นว่า เพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและพยุงการจ้างงาน จึงควรเร่งเพิ่มเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องจำนวนมาก โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ยังมีฐานะการเงินเข้มแข็งหรือรองรับการก่อหนี้เพิ่มได้ ผ่านการผ่อนคลายหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (มาตรการ LTV) เป็นการชั่วคราว 

สาระสำคัญของการผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้ มีดังนี้

1. กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) เป็นร้อยละ 100 (กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน) สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (รวมสินเชื่ออื่นนอกเหนือจากเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยและมีที่อยู่อาศัยนั้นเป็นหลักประกันหรือสินเชื่อ Top-up แล้ว) ทั้งกรณี (1) มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 2 เป็นต้นไป1  และ (2) กรณีมูลค่าหลักประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 1 เป็นต้นไป

2. การผ่อนคลายนี้ให้เป็นการชั่วคราว สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565

ธปท. คาดว่าการผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้ จะช่วยดึงเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีความสำคัญและมีธุรกิจเกี่ยวเนื่อง คิดเป็นกว่าร้อยละ 9.8 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และมีการจ้างงานรวมกว่า 2.8 ล้านคน 

ภายใต้แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังเปราะบาง ประกอบกับในปัจจุบัน สถาบันการเงินมีมาตรฐานการให้สินเชื่อที่รัดกุม โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ในระยะยาวเป็นหลัก ธปท. จึงประเมินว่าความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินที่จะมาจากการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ในระยะหนึ่งปีข้างหน้ามีจำกัด ทั้งนี้ ธปท. จะติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ มาตรฐานการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน และความสามารถของประชาชนในการกู้หรือซื้อที่อยู่อาศัยได้ในราคาที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนมาตรการได้อย่างเท่าทันและเหมาะสมต่อไป

ธนาคารแห่งประเทศไทย
21 ตุลาคม 2564

อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ ขานรับมาตรการ ส่งโปรโมชั่นแรงกระชากใจชนิดที่ถูกกว่าคนซื้อไปก่อนตอนพรีเซลล์ซะอีก

 

ANANDA DEVELOPMENT ตอบรับข่าวดีมาตรการผ่อนคลาย LTV ปลดล็อกขอสินเชื่อได้ 100% ชั่วคราวของธนาคารแห่งประเทศไทย
ส่งโปรสุดปัง ลดสุดช๊อค ถูกกว่าพรีเซล แค่ 5 โครงการนี้เท่านั้นในช่วงโค้งสุดท้ายของการขาย 5 โครงการ ซึ่งทางอนันดาลดราคาคอนโดในช่วงราคา 1.7 – 3 ล้านบาท* บนทำเลที่ ใกล้รถไฟฟ้าเริ่มที่ 0 เมตร – 350 เมตร*

รับสิทธิพิเศษวันนี้ คลิก >> https://anan.ly/3BTOa18

ถ้ายังลังเล รีบตัดสินใจด่วน โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ ทั้งราคาพิเศษและยังขอสินเชื่อได้เต็มที่ไม่ต้องมีข้อจำกัด ….แต่เวลาจำกัดนะครับ
ช่วงเวลาราคาแบบนี้ เงื่อนไขทางการเงินอำนวยแบบนี้ คนอยากมีคอนโดน่าจะคว้าไว้ ไม่ว่าจะลงทุน หรือ จะเพื่ออยู่เองในที่ของตัวเอง ในราคาต่ำกว่า PRESALE (คนซื้อก่อนอย่างผมและหลายๆคนได้แต่อยากได้บ้าง แต่ดันซื้อไปแล้วในราคาพรีเซลล์)
5 ทำเลตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง : ใกล้รถไฟฟ้า แหล่งงาน แหล่งช๊อปปิ้ง
สายสีน้ำเงิน ต่อเดียวถึง อโศก : ไอดีโอ โมบิ บางซื่อ แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ และ ไอดีโอ โมบิ วงศ์สว่าง
สายสีเขียว สายเดียวยาวถึงสยาม :ไอดีโอ สาทร-วงเวียนใหญ่ และ ยูนิโอ สุขุมวิท 72
สายสีส้ม ใกล้พระราม 9 New CBD: ไอดีโอ พระราม 9 ตัดใหม่
ขอย้ำอีกครั้งว่าอนันดาเค้าขายถูกกว่า ราคา PRESALE เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ลดราคาสุงสุดถึง 3 ล้านบาท และฟรีค่าใช้จ่ายในวันโอน
หมดเขต 15 พ.ย. นี้ แต่ถ้าอยากได้ห้องสวยตำแหน่งถูกใจ ต้องรีบมาเลือกก่อน เพราะหมดแล้วหมดเลย (โปรปิดตึก)

รับสิทธิพิเศษวันนี้ คลิก >> https://anan.ly/3BTOa18

.
.
.
PRESENTATION สรุป

.

.

จากข้อมูลตัวเลข ตลาดอสังหาซบเซามากๆๆๆ

1. เหตุผลและความจำเป็นของการผ่อนคลายมาตรการ LTV และผลของมาตรการในครั้งนี้
Q1 : ทำไม ธปท. ผ่อนคลายมาตรการ LTV ในช่วงนี้ ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png
A1 : ช่วงก่อนหน้าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยอยู่ในระดับต่ำ การผ่อนคลายมาตรการ LTV อาจไม่สามารถช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อได้มากขึ้นนัก ขณะที่ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มจะทยอยฟื้นตัว แม้จะเป็นไปอย่างไม่เท่าเทียมในแต่ละอุตสาหกรรม (K-Shape recovery) แต่ประชาชนเริ่มมีความเชื่อมั่นมากขึ้น การผ่อนคลายมาตรการ LTV ในช่วงนี้ น่าจะช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อของประชาชนกลุ่มที่มีฐานะการเงินมั่นคง ซึ่งจะช่วยกระจายเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์

Q2 : ทำไมจึงผ่อนคลายมาตรการเป็นการชั่วคราวถึงสิ้นปี 2565 ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png

A2 : การผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมตามระยะเวลาที่จำเป็น ซึ่งสอดคล้องกับช่วงระยะเวลาที่เศรษฐกิจต้องการแรงสนับสนุนในการฟื้นตัว โดย ธปท. ประเมินว่า ในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจไทยจะอยู่ในช่วงทยอยฟื้นตัว ประกอบกับสถาบันการเงิน (สง.) ยังระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินที่จะมาจากการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีจำกัด

Q3 : คาดว่าการผ่อนคลายมาตรการในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร (โดยเฉพาะช่วงที่กำลังซื้อของคนไทยลดลง) ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png

A3 : การผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะผู้ที่ยังมีฐานะการเงินเข้มแข็งหรือรองรับการก่อหนี้เพิ่มได้ (มีความสามารถในการผ่อนชำระ) ซึ่งจะดึงเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และส่งต่อไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องมีมูลค่ารวมกว่า 9.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และมีการจ้างงานรวมกว่า 2.8 ล้านคน

Q4 : ผู้กู้กลุ่มไหนได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้ ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png

A4 : การผ่อนคลายมาตรการในรอบนี้ ประเมินว่ามีผู้กู้ 4 กลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการขอสินเชื่อได้เต็มมูลค่าหลักประกัน ได้แก่

– กลุ่มผู้กู้ที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ตั้งแต่สัญญาที่ 2 ขึ้นไป เพื่อตอบโจทย์ lifestyle ที่เปลี่ยนแปลงจากช่วงโควิด 19 เช่น ผู้ต้องการพื้นที่ใช้สอยใหม่เพื่อรองรับการทำงานที่บ้าน (Work From Home) หรือไม่ต้องการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกับผู้อื่น

– กลุ่มผู้กู้ร่วม

(1) ผู้กู้ร่วมที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระสินเชื่อบ้านที่ตนเองมีกรรมสิทธิ์และต้องการกู้ซื้อบ้านหลังใหม่เพิ่มเติม

(2) ผู้ที่กำลังตัดสินใจจะกู้ร่วมและมีแผนที่จะซื้อบ้านเป็นของตนเองภายในสิ้นปี 2565

– กลุ่มคนกู้บ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ในสัญญาแรกที่เดิมต้องวางดาวน์ขั้นต่ำ 10% ของมูลค่าหลักประกัน

– กลุ่มผู้ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ สินเชื่อ Top-up หรือผู้กู้ที่เข้าร่วมโครงการรวมหนี้ (debt consolidation) เพื่อเสริมสภาพคล่อง

Q5 : ธปท. เน้นช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักหรือไม่ ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png

A5 : – การผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจผ่านการเร่งเพิ่มเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบ โดยผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีธุรกิจเกี่ยวเนื่องเป็นจำนวนมาก เช่น ผู้รับเหมาก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ และการเงิน และมีการจ้างงานสูง

– มาตรการนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายมาตรการทางการเงินที่ ธปท. ดำเนินการช่วยเหลือภาคธุรกิจและครัวเรือน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 และสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (ตัวอย่างมาตรการทางการเงินที่ ธปท. ได้ดำเนินการแล้ว เช่น การรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับต่ำ มาตรการพักชำระหนี้ของผู้กู้รายย่อย มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู และโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ เป็นต้น)

2. ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้
Q1 : การผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้จะทำให้เกิดการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png
A1 : ​- การผ่อนคลายมาตรการในครั้งนี้จะก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านการเก็งกำไรในระดับต่ำ เนื่องจากเป็นการผ่อนคลายมาตรการในภาวะที่เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ช้า และ สง. มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความสามารถในการชำระหนี้ต่ำ

– อย่างไรก็ดี ธปท. จะติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ มาตรฐานการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของ สง. สัญญาณการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และความสามารถของประชาชนในการกู้/ซื้อที่อยู่อาศัยได้ในราคาที่เหมาะสม (housing affordability) เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนมาตรการได้อย่างเท่าทันและเหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป

Q2 : การผ่อนคลายมาตรการ LTV จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของหนี้ครัวเรือนที่ปัจจุบันอยู่ในระดับสูงอยู่แล้วหรือไม่ ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png

A2 : ​- ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงเกินไปของไทยไม่ใช่หนี้เพื่อที่อยู่อาศัย แต่เป็นหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งเป็นหนี้ระยะสั้นและมีอัตราดอกเบี้ยสูง ทำให้ครัวเรือนไทยมีภาระการผ่อนชำระค่อนข้างสูง ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้ความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนแย่ลง โดยเฉพาะกลุ่มรายได้ต่ำ

– นอกจากนี้ การผ่อนคลายมาตรการครั้งนี้ เน้นให้กลุ่มที่ยังมีฐานะการเงินเข้มแข็งหรือรองรับการก่อหนี้เพิ่มได้ออกมาใช้จ่ายมากขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่ยังมีกำลังผ่อนชำระหนี้ จึงไม่น่ากระทบกับความสามารถในการชำระหนี้โดยรวมมากนัก

Q3 : ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 สง. เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้นหรือไม่/ในลูกค้ากลุ่มใด ? และ ธปท. จะมีนโยบายช่วยกระตุ้นให้ สง. ปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เพื่อให้การผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้เกิดประสิทธิผลสูงสุดได้อย่างไร ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png
A3 : – จากสถานการณ์โควิด 19 ส่งผลให้รายได้ของภาคครัวเรือนลดลง สง. จึงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้กู้ที่มีภาระหนี้สูง หรือประกอบอาชีพที่อยู่ในภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19

– การผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี้ มุ่งเน้นการดึงเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจผ่านการกู้ยืมของประชาชนที่ยังมีฐานะการเงินเข้มแข็ง หรือมีความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งคาดว่า สง. ยังยินดีที่จะให้สินเชื่อแก่คนกลุ่มนี้อยู่แล้ว

3. เงื่อนไข / วันที่มีผลบังคับ / การผ่อนคลายมาตรการ LTV ในครั้งนี
Q1 : การผ่อนคลายมาตรการครั้งนี้ เป็นการยกเลิกมาตรการ LTV ใช่หรือไม่ ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png
A1 : ​ไม่ได้เป็นการยกเลิกมาตรการ LTV เนื่องจากยังมีการกำหนดเพดาน LTV สูงสุดที่ สง. สามารถให้สินเชื่อได้ แต่เป็นการผ่อนคลายมาตรการ LTV จากเดิมที่ให้สินเชื่อได้ 70-90% ของมูลค่าหลักประกัน เป็น 100% (กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน) เป็นการชั่วคราวถึงสิ้นปี 2565

Q2 : มาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ อย่างไร และใช้กับทั้งธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) หรือไม่ รวมทั้งจะมีผลย้อนหลังกับผู้กู้ที่ทำสัญญาสินเชื่อไปแล้วหรือไม่ ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png

A2 : ​- มีผลบังคับใช้เป็นการชั่วคราว สำหรับผู้กู้ที่ทำสัญญากู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (สินเชื่อ Top-up) และสินเชื่อรีไฟแนนซ์กับทั้ง สง. และ SFIs ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 2564 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565

– มาตรการนี้ไม่มีผลย้อนหลังกับผู้กู้ที่ทำสัญญาสินเชื่อไปแล้ว

Q3 : การผ่อนคลายครั้งนี้ บังคับใช้กับกรณีสินเชื่อปล่อยใหม่ สินเชื่อรีไฟแนนซ์ และสินเชื่อ Top-up หรือไม่ ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png

A3 : ​ใช่ บังคับใช้กับทั้งสินเชื่อปล่อยใหม่ สินเชื่อรีไฟแนนซ์และสินเชื่อ Top-up
4. ประเด็นชี้แจงและทำความเข้าใจทั่วไปเกี่ยวกับมาตรการ LTV
Q1 : สินเชื่อ Top-up คืออะไร ? และสินเชื่อ Top-up ประเภทใดบ้างที่ไม่นับรวมในการคำนวณ LTV ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png
A1 : – สินเชื่อ Top-up หมายถึง สินเชื่อที่มีวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย โดยมีที่อยู่อาศัยนั้นเป็นหลักประกัน

– ตัวอย่างสินเชื่อ Top-up ใน 2 กรณี คือ

(1) กรณีที่ผู้กู้ขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ผู้กู้อาจได้รับสินเชื่ออื่นเพิ่มเติม (เป็นสินเชื่อ Top-up) เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ อาทิ ซื้อเฟอร์นิเจอร์ หรือจ่ายเบี้ยประกันที่เกี่ยวข้อง และ

(2) กรณีที่ผู้กู้ผ่อนค่าบ้านไประยะหนึ่ง มูลค่าหนี้บ้านจะลดลงและต่ำกว่ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้กู้สามารถขอสินเชื่อ Top-up เพิ่มเติม เพื่ออุปโภคบริโภคทั่วไป หรือเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนประกอบธุรกิจได้

– เพื่อลดอุปสรรคในการเข้าถึงสินเชื่อ จึงมีสินเชื่อบางประเภทที่ได้รับการยกเว้น ไม่นับรวมในการคำนวณ LTV ได้แก่

(1) สินเชื่อเพื่อจ่ายเบี้ดยประกันที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย เช่น ประกันชีวิตผู้กู้ (MRTA) และประกันวินาศภัย เพื่อป้องกันความเสี่ยงของทั้งผู้กู้และ สง.

(2) สินเชื่อที่ให้กับธุรกิจ SMEs เพื่อให้ธุรกิจรายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้โดยมีต้นทุนที่เหมาะสม แต่ สง. จะต้องมีกระบวนการพิจารณาสินเชื่อและการบริหารความเสี่ยงเหมือนสินเชื่อที่ใช้ประกอบธุรกิจ

Q2 : มาตรการ LTV บังคับใช้กับสินเชื่อสวัสดิการใช่หรือไม่ ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png
A2 : ​ไม่บังคับใช้กับสินเชื่อสวัสดิการที่ สง. ให้แก่พนักงานของ สง. เอง แต่จะมีผลบังคับใช้กับสินเชื่อสวัสดิการที่ต้นสังกัดไม่ใช่ สง. แต่มีข้อตกลงกับ สง. ที่จะให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแก่พนักงานของต้นสังกัดนั้น

Q3 : การกู้สินเชื่อบ้านแลกเงิน (home for cash) เข้าข่ายมาตรการ LTV หรือไม่ ?/_catalogs/masterpage/img/expand.png

A3 : ขึ้นอยู่กับว่าหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ที่อยู่อาศัย) ยังอยู่ระหว่างการผ่อนชำระสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยหรือไม่
กรณีหลักทรัพย์ค้ำประกันยังอยู่ระหว่างผ่อนชำระ จะเข้าข่ายมาตรการ LTV แต่หากเป็นกรณีสินเชื่อบ้านแลกเงินที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจ SME จะได้รับการยกเว้นในการคำนวณอัตราส่วน LTV

กรณีหลักทรัพย์ค้ำประกันปลอดภาระผ่อนชำระ: ไม่เข้าข่ายมาตรการ LTV

Q4 : ตัวอย่างการนับจำนวนสัญญากู้/_catalogs/masterpage/img/expand.png
A4 : จำนวนสัญญากู้ หมายถึง จำนวนสัญญากู้สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยระหว่างผ่อนชำระ รวมสัญญาที่กำลังยื่นเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม เช่น ผู้ยื่นกู้ยังผ่อนที่อยู่อาศัยหลังแรกอยู่ และยื่นขอกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยอีกหลัง กรณีนี้จะถือว่าเป็นการพิจารณาให้สินเชื่อสัญญาที่ 2 ดังนั้น สัญญากู้อาจมิได้หมายถึงจำนวนบ้าน (หลัง) ที่ผู้กู้มีทั้งหมด แต่หมายถึงจำนวนบ้านที่กู้ซื้อและอยู่ระหว่างผ่อนชำระ 

กรณีสินเชื่อปล่อยใหม่

– นาย ก. มีบ้าน 2 หลัง โดยซื้อเงินสด 1 หลัง และกู้ซื้อ 1 หลังซึ่งยังผ่อนไม่หมด กรณีนี้นับว่า นาย ก. มีสัญญากู้เดิมเพียง 1 สัญญา

– นาย ข. มีบ้าน 4 หลัง โดยซื้อเงินสด 1 หลัง กู้ซื้อและผ่อนหมดแล้ว 1 หลัง และกู้ซื้อแต่ยังผ่อนไม่หมด 2 หลัง กรณีนี้นับว่า นาย ข. มีสัญญากู้เดิม 2 สัญญา

 นาย ค. มีบ้าน 2 หลัง โดยกู้ซื้อและยังผ่อนไม่หมดทั้ง 2 หลัง กรณีนี้นับว่า นาย ค. มีสัญญากู้เดิม 2 สัญญา

กรณีสินเชื่อรีไฟแนนซ์

– นาย ง. มีบ้าน 2 หลัง โดยซื้อเงินสด 1 หลัง กู้ซื้อ 1 หลังที่ยังผ่อนไม่หมดและกำลังจะรีไฟแนนซ์ กรณีนี้นับการรีไฟแนนซ์ของ นาย ง. เป็นสัญญาแรก

– นาย จ. มีบ้าน 2 หลัง ซึ่งกู้ซื้อและยังผ่อนไม่หมดทั้ง 2 หลัง โดยกำลังจะรีไฟแนนซ์หลังแรก กรณีนี้นับว่า นาย จ. กำลังยื่นขอรีไฟแนนซ์เป็นสัญญาที่ 2 อย่างไรก็ดี หาก สง. มีหลักฐานที่พิสูจน์ลำดับที่ของสัญญาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของลูกหนี้ได้ชัดเจน เช่น มีสำเนาเอกสารโฉนดที่ดินที่แสดงว่าลูกหนี้ได้โอนที่อยู่อาศัยและมีสินเชื่อกับ สง. ต่าง ๆ ตั้งแต่เมื่อใด หลักฐานดังกล่าวสามารถใช้แสดงลำดับที่ของสัญญาได้ซึ่งหากมีเอกสารหลักฐานจากกรณีดังกล่าวให้นับเป็นสัญญาที่ 1 ได้

กรณีสินเชื่อ top-up ในภายหลัง

– นาย ฉ. มีบ้าน 2 หลัง โดยซื้อเงินสด 1 หลัง กู้ซื้อ 1 หลังและยังผ่อนไม่หมด และกำลังจะขอสินเชื่อ top-up โดยมีบ้านหลังที่ยังผ่อนไม่หมดเป็นหลักประกัน กรณีนี้นับว่า นาย ฉ. ยื่นขอสินเชื่อ top-up ซึ่งนับเป็นสัญญาแรก แต่การคำนวณ LTV ต้องรวมสินเชื่อ top-up นั้นด้วย

– นาย ช. มีบ้าน 2 หลัง โดยซื้อเงินสด 1 หลัง กู้ซื้อ 1 หลังและยังผ่อนไม่หมด และกำลังจะขอสินเชื่อ top-up โดยมีบ้านหลังที่ซื้อเงินสดเป็นหลักประกัน กรณีนี้นับว่า นาย ช. ยื่นขอสินเชื่อ top-up แต่ไม่นับเป็นอีกสัญญา เนื่องจากไม่ถือเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

Source: https://www.bot.or.th/Thai/PressandSpeeches/Press/2021/Pages/n7564.aspx?fbclid=IwAR1xLTDjS-W7nYdh77zWt6l8vhauvebnqh3yIIz2BqvhXvb5L91o72isuEE