ผมจำได้ตอนที่ The Diplomat Sathorn เปิดตัวเป็นคอนโด 0 เมตรจากสถานี bts สุรศักดิ์ ชูจุดเด่นด้านวิวมุมมองถนนสาทรที่สวยที่สุด ไม่มีใครคิดหรอกว่าวิวจุดขายนั้นจะมีอะไรขึ้นมาบังได้ในอนาคต ก็ด้วยขนาดที่ดินที่หน้าแคบแถมติดถนน 2 ด้าน
แต่มาในวันนี้ แสนสิริทำสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้กลายเป็นจริง โดยก้าวเข้ามา ซื้อที่ดินรวมแปลงด้านหลังพัฒนาโครงการจนเป็น “The LINE Sathorn” โครงการร่วมทุนกับยักษ์ใหญ่ระบบรางเมืองไทยอย่าง BTS ในที่สุด
ด้วยรูปทรงที่ดินที่หน้าแคบแต่ลึกและหักมุมเข้าไปเป็นตัว L การออกแบบตึกจึงออกมาเป็นแบบ Luxury Slim ดูสูงเพรียวมีเสน่ห์น่าค้นหา (คหสต. ผมชอบที่สุดในคอนโดยุคหลังของแสนสิริเลยครับ ก็ชอบตึกเพรียวๆแบบนี้อ่ะ) ตัวอาคารมีความสูงจากพื้นถึงจุดสูงสุดถึง 170 เมตร สูงกว่า The diplomat ข้างๆพอสมควร เมื่อสร้างเสร็จนอกจากจะบัง the diplomat ในมุมมองจากทิศตะวันออกมิดแล้ว ยังสูงกว่าแบบมีนัยยะ แถมเป็นตึกกระจกล้วนดูแพง จนแย่งชิงความโดดเด่นมาได้เกือบทั้งหมดเมื่อมองทางตรงจากด้านหน้าโครงการ
มีอาคารจอดรถแยกต่างหากเป็น auto parking tower 4 ช่อง lift ที่สูงเทียบเท่าตึก 20 ชั้น(น่าจะสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา) จอดรถได้67%
ทางรถเข้าออกอยู่ฝั่งซอยประมวญ ทำให้สามารถมาได้จากทั้งฝั่งสาทรและสีลม โดยมีทางเดินออกฝั่งสาทรให้ไปรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ง่ายๆเพียงไม่กี่เมตร
แปลนชั้นเป็นแบบ single corridor ห้องทุกห้องหันวิวหลักไปด้านที่สวยที่สุดของทำเลนี้ คือมุมมองถนนสาทรแนวยาวเห็นสะพานข้ามแยกแยกช่องนนทรี และตึกสวยๆที่เป็น Landmark ของทำเลอย่างตึก Mahanakhon และ Empire tower ที่เป็นอดีตวิวจุดขายของ The Diplomat Sathorn เช่นกัน
หัวและท้ายของชั้นเป็นห้อง 2 BED (ที่ผมว่าน่าซื้อมากๆด้วยหลายๆเหตุผลที่ผมจะเขียนถึงในอีกไม่นาน) ขนาบห้อง 1 bed ที่มีขนาดตั้งแต่ 31.75-42 ตารางเมตร ขนาดกำลังดีในยุคนี้สมัยนี้ เป็น 1 bed ที่มีขนาดเล็กกว่าเพื่อนร่วมสถานีอย่าง The Bangkok และ The Diplomat ทำให้ราคารวมออกมาไม่ได้แรงเกินไปนักถ้าเทียบกับราคาขายต่อตารางเมตรในยุคปัจจุบัน คือเริ่มต้นที่ 7.9 ล้านบาท เมื่อราคารวมไม่แรงเกินไป และด้วยความเป็นแสนสิริ ทำให้ห้อง 1 bed มีข่าวลือวงในว่ามีผู้จำนงจองเกินจำนวนห้องไปหลายร้อย order กันเลยทีเดียว (ผมก็ส่งorderไปให้คนรู้จักห้องนึง แหะๆ)
เมื่อมองจากด้านข้าง จะสามารถแบ่งอาคารออกเป็น 2 โซนคือโซนด้านหน้าที่เป็น กระจกล้วนพื้นถึงฝ้า (double skin facade) และโซนด้านหลังที่เป็นระเบียงแบบซิกแซกสลับไปมา ( balcony facade) ดูดีทั้งคู่แล้วแต่รสนิยมคนซื้อครับ ว่าชอบแบบไหน
ตึกสูงเพรียวบนที่ดินเกือบ 2 ไร่นี้ อัดแน่นไปด้วย facility แบบจุใจถึง 7 ชั้น เกินพอกับจำนวน 327 ยูนิต
ไล่ตั้งแต่
ชั้น 1 ด้านหน้าเป็นสวนพร้อมรั้วสูง กั้นตัดขาดจากความวุ่นวายของถนนสาทรอย่างเด็ดขาด โดยมีประตูเปิดให้คนเดินเข้าและออกไปรถไฟฟ้าได้ ภายในตัวอาคารชั้นล่าง design เป็น lobby , lounge, hall , smart locker (อันนี้มีประโยชน์สุดๆกับยุคที่การสั่งของ online เป็นวิถีชีวิตหลักของคนส่วนใหญ่ไปแล้ว)
เชื่อมต่อกับชั้น 2 ที่เน้นจัดเป็นพื้นที่เพื่อการเรียนรู้และมีสมาธิจดจ่อกับงาน แบ่งแยกเป็นหลากหลายโซน
ทั้งสองชั้นนี้มีกระจกบานสูงร่วมกับเพดานสูง เป็นองค์ประกอบที่โดดเด่นลงตัว โดยเฉพาะพื้นที่ multi purpose ด้านหน้าอาคารเป็นกล่องกระจก double volume ที่อลังการเป็นอย่างมาก
ชั้น 38 มีสวน sky garden แทรกตัวอยู่ด้านหน้า (ห้องชั้นนี้จึงเหมาะกับคนชอบสวนนน แถมยังเหลือเพื่อนร่วมชั้นแค่ 7)
ชั้น 43-46 (roof top) เป็น facility ต่อเนื่อง 4 ชั้น มีสระสวยๆยาวรวม 42 เมตร (ระยะว่ายต่อเนื่องยาว 30 เมตร) เปิดวิวโล่งวิวขายไปทางตะวันออก ชั้น 44-46 เป็น facility ต่างๆอย่าง Fitness , Co-living ,Private – living , Relaxing area ผ่อนคลายกับเก้าอี้นวดตัวแพงแบรนด์ OSIM และทีเด็ดที่ co-kitchen พร้อม FARMSHELF ตู้ปลูกผักแบบใหม่จากสหรัฐอเมริกาที่ให้ผลผลิตเร็วขึ้น 3 เท่าและใช้งานได้ผ่าน smartphone
**โดยเฉพาะสระว่ายน้ำที่นี่เป็นสระที่สูงที่สุดบนสาทร ด้วยระดับความสูง 146 เมตร สูงพ้น The Diplomat ข้างๆที่มีความสูงจากพื้นถึงยอดตึกที่ 140 เมตร **
ขออนุญาตทำภาพให้ดูชัดๆ
The LINE Sathorn ยังชูจุดขาย 4 smart คือ smart service , smart access , smart facilities , smart relaxation
Smart service ก็คือน้องแสนดีผู้โด่งดังที่รับส่งเกือบทุกสิ่งอย่างถึงห้องพักคุณ
Smart access คือการเข้าถึงห้องโดยใช้มือถือไม่ต้องแตะคีย์การ์ด ที่ล้ำมากๆคือมีการส่งรหัสชั่วคราวให้เพื่อนหรือใครก้ได้ที่คุณผู้เป็นเจ้าของห้องอนุญาต เข้าถึงห้องคุณได้(โดยรหัสจะมีอายุจำกัด) สะดวกสุดๆใช่มั๊ยหล่ะครับ
Smart Facilities ล้ำๆหลายสิ่งอย่าง
สุดท้ายก็ Smart Relaxation กับเก้าอี้นวดไฮเทคในห้องพักผ่อนสุดพิเศษ
สาทรทำเลสุดพรีเมียม ที่ราคาที่ดินแปลงใหญ่พุ่งไป 1.45 ล้านต่อตารางวา (ศุภาลัยซื้อไปเตรียมทำ mixed-use พร้อมคอนโดพรีเมียม) // ตึก mahanakhon เตรียมเปิดชั้นบนสุดเป็น landmark //ไม่ไกลจาก iconsiam อภิมหาโปรเจคเชื่อมต่อด้วยรถไฟฟ้าเพียง 3 สถานี
เมื่อ top floor ตึก Mahanakhon เปิด ทำเลช่องนนทรีจะร้อนแรงเป็นที่จับตาของคนทั้งโลกอย่างแน่นอน ก็นะพื้นกระจกใสสูงจากพื้นดินขนาดนั้น ใครๆก็อยากมาสัมผัส
ห้อง 2 BED ที่นี่น่าซื้อที่สุด
ทำไมผมถึงกล้าพูด? ลองอ่านเหตุผลของผมดูนะครับ
1.ออกแบบดี เมื่อเทียบกับห้อง 2 bed ทั่วไปในยุคนี้สมัยนี้
แปลนสวยมากกกกก กับขนาดแค่ 71 ตารางเมตร ได้ทั้งกระจกเข้ามุมบานสูงพื้นจรดเพดาน ,มี 2 ระเบียง,แถมห้องด้านหลังยังได้หน้าต่าง 3 ทิศ (ซึ่งห้อง type หน้าต่าง 3 ทิศแสนสิริประสบความสำเร็จมากๆ กับ HQ Thonglor ห้อง 99 ตารางเมตร ร้อนแรงเป็นที่ต้องการของคนรักคอนโด),ครัวปิดแยกเป็นสัดส่วน ,sexy bathroom ระบายอากาศ
2BED จะอยู่ที่ด้านหน้าและด้านหลังของชั้น เป็นห้องมุมที่พรีเมียมกว่า เปิดรับวิวได้หลายด้าน
อันนี้ห้องด้านหน้า เหมาะกับคนชอบ master bedroom ใหญ่ๆ
วิวห้องนี้ด้านหน้าวิวหลักฝั่งถนนสาทรจะได้พื้นที่เขียวๆ เห็นรถไฟฟ้าวิ่งไปมา
อันนี้ sathorn city view ที่โด่งดัง (วิวทุกห้องจะหันไปด้านนี้)
ห้องนี้น่าอยู่มากกกกกกก ผมชอบจริงจัง
ห้อง 2 BEDแบบที่สองที่อยู่ด้านหลังมีให้เลือก 2 แบบ คือระเบียงอยู่ห้อง living หรือระเบียงอยู่ในห้องนอน แล้วแต่คนชอบเลยครับ อย่างที่บอกว่าจุดเด่นเรื่องหน้าต่าง 3 ทิศระบายอากาศสะใจ แถมครัวยังติดอากาศอีกด้วย
ห้องด้านหลังจะแถมวิวซอยประมวญแบบนี้
แต่วิวหลักจะเป็นวิว sathorn city
ยังมีห้อง 2 bed ขนาด 8x ตารางเมตรอยู่โซนชั้นสูงอีก ถ้าใครชอบความใหญ่โตและพรีเมียม แสนสิริก็เตรียมมาให้ได้เลือกซื้อ (แต่ผมชอบแปลนห้อง 71ตารางเมตรมากกว่า)
2.ทำเลสาทรเป็นทำเลที่เหมาะกับการอยู่แบบครอบครัว พ่อแม่ลูก สำหรับคุณลูกคือใกล้โรงเรียนชื่อดัง (โดยเฉพาะกรุงเทพคริสเตียน ใกล้มากกกก) ใกล้อัสสัมชัญ ใกล้ Shrewbury สำหรับคุณพ่อก็ใกล้ที่ทำงานอยู่ในถนน CBD แท้ๆดั้งเดิม ข้ามไปฝั่งธนก็สะดวก สำหรับคุณแม่ก็อยู่ในย่านการค้า ซื้อของจับจ่ายใช้สอยสะดวก
ที่สำคัญคือ คอนโดนี้แทบจะติดทางขึ้นลงรถไฟฟ้ากันเลยทีเดียว
เอาหล่ะ!!!สำหรับครอบครัวที่ตัดสินใจจะอยู่ทำเลนี้แล้ว เราก็ต้องมองถึง 2 bed อื่นๆในทำเลติดสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ใน segment เดียวกันอย่าง The Bangkok และ The Diplomat ประกอบด้วย
The Bangkok จะเป็นห้องขนาดใหญ่เริ่มร้อยกว่าตารางเมตร(ใหญ่เว่อร์วัง) ตกแต่งแนวสูงอายุหน่อย แต่ส่วนกลางใหญ่ เพดานสูงกว่าและได้ private lift ถ้าคนชอบใหญ่ๆ ชอบ style แบบผู้ใหญ่ๆ งบเยอะๆก็เหมาะดีครับ
ส่วน the diplomat ข้างๆ ห้อง 2 bed ขนาดเริ่มเล็กกว่าอยู่ที่ 4 มุมของชั้น แต่ก็นะวิวไปหมดละ โดนขนาบทั้ง 2 ด้าน ยิ่งห้องมุมด้านหลังชั้นไม่สูงนะยังโดนบล็อกจากอาคารจอดรถของ the line เองด้วย
การที่ The Line เป็นที่ดินแปลงสุดท้ายละ โอกาสที่จะมีอะไรขึ้นมาบังในระยะประชิดแทบไม่มี สนามบอลของกรุงเทพคริสเตียนก็เป็นที่หวงแหนของศิษฐ์เก่าและปัจจุบัน คงไม่มีแผนสร้างตึกมาทดแทนแน่ๆ
นวัตกรรมการระบายอากาศ
ที่ The Line Sathorn ยังมาพร้อมกับระบบระบายอากาศแบบใหม่ ลอดช่องเพดานที่สูงจากพื้น 2.8เมตร ประหยัดพลังงาน ลดความอับชื้น อากาศจะวิ่งทะลุจากฝั่งระเบียงออกไปยังโถงทางเดิน ทะลุผ่านหน้าต่างไปหาตึกข้างๆ
ไฮเทคเกินไปแล้ว!!!!!!!!!!!!!!
แต่ความดีงามก็มาพร้อมราคาค่าตัวที่แพงขึ้นมาอีก step ตามแบรนด์แสนสิริ (ผมแอบเล่าละกัน มีคนเคยไปคุยกับผู้รับเหมารายใหญ่ว่าถ้าให้ซื้อคอนโดจะซื้อของเจ้าไหน เค้าไม่ตอบแต่กระซิบว่า แสนสิริให้ของดีคุ้มราคาขายมากที่สุด) ((ออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้ฟังด้วยหูตัวเองนะ มีคนเล่าให้ผมฟังเฉยๆ))
ปิดท้ายด้วยผลงาน The Line ที่เสร็จแล้วอย่าง The Line JJ ไม่ทำให้ผู้ที่รอคอยผิดหวังแม้แต่น้อย….ก็นะนี่คือ “แสนสิริ”
ใครสนใจรีบติดต่อเซลล์ใกล้บ้านท่านด่วนนนนน
fact sheet