WE ARE THE BLOGKER

October 16, 2022
9004
เปิดห้องตัวอย่าง “CULTURE CHULA” คอนโดฟรีโฮลด์เพดานสูง บนทำเลที่เป็นที่สุด ,พร้อมแชร์ข้อมูลที่ลงลึกกว่าใคร

รีวิว
สรุป

ผู้สนใจลงทะเบียนได้ที่ https://anan.ly/3dJa9kq

ถ้าให้จัดอันดับ ทำเลของคอนโดมิเนียม free hold ที่เปิดตัวใหม่ตั้งแต่ปี 2020 – ปัจจุบัน และต่อเนื่องไปถึงปีหน้า

“โดยส่วนตัวผมให้ที่นี่เป็นอันดับ 1”

..

CULTURE CHULA โดยอนันดา ดีเวลอปเมนท์ 

 

ด้วยการติดถนน 2 ด้าน ทั้งฝั่งพระราม 4 ที่ติดแบบหน้ากว้าง ตรงข้ามอาณาจักรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สภากาชาดไทย

ใกล้ MRT สามย่าน 350 เมตร และอีกด้านยังติดถนนสุรวงศ์ตรงข้ามซอยธนิยะ เชื่อมต่อไปยังถนนสีลม  BTS ศาลาแดง เพียง 290 เมตร 

** คอนโดใหม่แบบ FREE HOLD ห่างสถานี ฺBTS ศาลาแดงในระยะ 290 เมตร ที่นี่คือที่เดียว **

 

— THE ONE & THE ONLY — 

อีกทั้งยังใกล้สวนลุมพินีให้ได้ไปออกกำลังกายสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ในทุกเวลา

คงมีที่ดินเพียงไม่กี่แปลงที่สวยพรีเมียมระดับนี้แล้วถูกนำมาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม ให้พวกเราได้หาซื้อกัน

สืบทอดความสำเร็จต่อเนื่อง

จากยานแม่ IDEO Q สู่—> ASHTON ไป—–> IDEO CHULA SAMYAN และล่าสุด —–> CULTURE CHULA  

ซึ่ง 2 โครงการแรก SOLD OUT ไปเรียบร้อย ส่วนโครงการที่ 3 ที่กำลังก่อสร้างขายไปกว่า 80% แล้ว

คัลเจอร์จุฬาแทบจะติดกับ ASHTON CHULA เลยครับ มีเพียงโรงแรมมณเทียร สุรวงศ์ที่มีข้าวมันไก่แสนอร่อยคั่นกลางเท่านั้น

แค่มองขึ้นไปก็เจอ

SALES GALLERY ต้้งอยู่บนที่ดินจริงฝั่งพระราม 4  ซึ่งนอกจากจะมีห้องตัวอย่างแล้ว ยังมีลานชิงช้า CO CULTURE SPACE ด้านนอกกับร้านกาแฟชั้นนำอย่าง RED DAIMOND มาเปิดให้บริการด้วย

ก่อนจะเข้าไปภายในสำนักงานขาย  มาดูรายละเอียดโครงการนี้กันก่อนครับ

 

CULTURE CHULA

เป็นคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ที่ อนันดา ดีเวลอปเมนท์  ร่วมกันสร้างกับ SCRATCH FIRST นักสร้างสรรค์ระดับนานาชาติ ผู้สร้างงาน WONDER FRUIT ที่โด่งดังไปหลายประเทศ  ซึ่งจะเปิดพร้อมกันที่นี่และที่ทองหล่อ

คือ NEW TRIBE OF URBAN LIVING 

SUSTAINABLE LIVING

ทำเลGRADE AAA , ตึกสวยเพดานสูง แถมยังมีจุดเด่นมี concept ที่แตกต่าง 

คือนอกจากจะออกแบบพื้นที่สีเขียวให้มากสุดๆ ออกแบบส่วนกลางที่เข้ากับวิถีชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ เค้ายังสร้าง Community สำหรับคนคอเดียวกันได้มีประสบการณ์การอยู่อาศัยร่วมกัน  โดยจะมีเซอร์วิสระดับ WORLDCLASS จาก ASCOTT เข้ามาบริหารงานบริการแก่ผู้พักอาศัยในโครงการอย่างน้อย 10 ปี  ซึ่งมีทั้งการบริหารจัดการอาคาร และเซอร์วิสแบบ ON DEMAND (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)

โครงการ CULTURE CHULA ยังเป็นโครงการที่มีพื้นที่สีเขียวเยอะมาก แทรกไปในระหว่างชั้นตามรูปแบบตึกที่ต้องลดระดับขั้นบันไดตามแนว setback ความสูงของถนนทั้งสองด้าน  ทำให้เมื่อมองจากมุมบนไปยังอาคาร จะเห็นแต่พื้นที่สีเขียวทั้งหมด ยกเว้นถนน สระว่ายน้ำ และพื้นที่หนีไฟทางอากาศตามกฏหมายกำหนด

ดูได้จาก floor plan ที่ผมได้เอาทุกชั้นมาวางซ้อนกันตามภาพด้านล่างได้ครับ

น่าทึ่งมากๆ  ยิ่งด้านทิศเหนือที่เป็นสวนแนวฟันเลื่อยเล่นระดับจาก 4 ชั้นพักอาศัยบนสุดยิ่งสวยสุดๆ

ดูจากภาพ CG นี้จะเห็นว่าสวนขั้นบันไดด้านหน้าเป็น HIGHLIGHT ของอาคารนี้

 

CULTURE CHULA

คืออาคารสูง 32 ชั้น (ประมาณ 146.5 เมตร เทียบเท่า 43 ชั้นของอาคารอื่น)

บนที่ดินขนาด 2-1-66.2 ไร่ ประกอบไปด้วยห้องพักแบบ HYBRID เพดานสูงทุกยูนิต จำนวน 612 ห้อง และอีก 2 ร้านค้า

ที่จอดรถอัตโนมัติ 248 คัน คิดเป็น 40%   มีช่องจอดพร้อมหัวชาร์จ EV  5 ช่อง

ลิฟท์ 4+1 ตัว

ห้องพักเริ่มที่ชั้น 7-29  ซึ่งทุกห้องเป็น HYBRID เพดานสูงมีชั้นลอย ห้องแบบนี้เป็นของหายากในย่านนี้ แทบจะไม่มี SUPPLY เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นที่นี่เลยมีกระแสร้อนแรงตั้งแต่มีข่าวโครงการหลุดออกมา

ความสูงเมื่อเทียบกับ ASHTON CHULA

คัลเจอร์เป็นตึกสูงมากก็จริง แต่เมื่อเทียบกับ ASHTON ที่สูงเกิน 200 เมตรแล้ว คอนโดนี้จะเตี้ยกว่าพอสมควร

เทียบกันแบบ SCALE TO SCALE  จะเห็นว่าจุดสูงสุดของอาคารอยู่ที่ประมาณชั้น 44 ของ ASHTON ยังไม่ถึงระดับสระที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ ของแอชตันที่อยู่ชั้น 49  ดังนั้นเจ้าของร่วมแอชตันสบายใจได้ครับ

และถึงจะเตี้ยกว่า แต่ด้วยทำเลความเป็นหัวมุม และด้วยความสูงระดับ 146 เมตร ตึกนี้จะโดดเด่นกว่าด้วยซ้ำในหลายมุมมอง

มองจากแยกสามย่าน

 

FACILITY 

คือจุดเด่นของคอนโดอนันดามาตั้งแต่ต้น ที่นี่ก็เช่นกัน 4 ชั้นบนสุดต่อเนื่องคือก้อน FACILITY ที่น่าใช้มากๆ  ด้วยระดับความสูง 130-140 เมตร แถมตั้งอยู่ตรงนี้วิวเลยสวยมากๆๆๆ  หากใครเคยขึ้นไปดูวิวจาก ASHTON CHULA จะรู้ว่าแถวนี้วิวสวยพรีเมียมสุดๆ ซึ่งระดับชั้นสระว่ายน้ำคือประมาณชั้น 40 ของ ASHTON CHULA

 

C – SKY TERRACE ลานชมวิว ROOFTOP แบบมีกระจกใสบานสูงกั้น

SKYLINE FITNESS ชั้น 32  ชมวิวเมืองแบบ 270 องศา // มองมุมก้มได้วิวสระ

SKY SWIMMING POOL สระว่ายน้ำ infinity edge pool  วิวสวนลุม (ขนาดของสระประมาณ 25 x 4.1 เมตร )

ชั้น 30 เป็น 24/7  COOLABORATE HUB  ที่ให้ลูกบ้านได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน มีทั้ง Co-Working, Co-Kitchen , Meeting room , Video Call Booth, Live Studio , Theater Room   เบื้องต้นคือเปิดตลอดไม่มีเวลาหยุดพัก

ถูกใจนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง รวมถึงคนทำงานสีลมสาทร ที่พักอาศัยที่นี่แน่ๆครับ FACILITY ชุดนี้

 

ภาพรวม facility  ที่ระดับความสูงเริ่มต้นประมาณ 130 เมตร

วิวจากชั้น FACILITY  หลักๆคือวิวนี้ครับ (เป็นภาพจาก drone เมื่อ 4 ปีที่แล้ว)

FACILITY ขนาดใหญ่ที่ top floor ตึกสูง วิวสวย นี่แหละครับ หัวใจสำคัญของความสำเร็จของโครงการ หลายที่ราคาพุ่ง ปล่อยเช่าดี นอกจากเพราะทำเลก็ความสุดยอดของส่วนกลางนี่แหละ ซึ่งที่นี่ได้ทั้ง 2 อย่าง

นอกจากพื้นที่ส่วนกลางที่ยอดอาคาร ที่นี่ยังมีสวนที่ชั้น 7

และส่วนกลางที่ชั้น 1 ซึ่งเป็นโถงเพดานสูงเชื่อมต่อกับชั้น 2   ประกอบด้วย   LOBBY , Co-working space , Co-Living Hall

มีสวนขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้าฝั่งพระราม 4 และด้านหลังที่เป็นทางเดินเข้าออกฝั่งสุรวงศ์

 

 

ที่จอดรถเป็น AUTOMATIC ประมาณ 40% พร้อมช่องจอดใต้อาคาร (มีหัวชาร์จ EV 5 ช่อง)

ลิฟท์จอดรถ 3 ตัว

 

มีที่จอดชั้นใต้ดินอีก 30 ช่อง , ชั้นที่เหลือจนถึงชั้น 6 เป็นที่เก็บรถจากช่องจอดอัตโนมัติ

 

 

 

เปิดห้องตัวอย่าง

(งานกำแพงด้านขวาคือถอดแบบมาจากกำแพงหลักป้ายโครงการ)

ถ้าอยากดูเป็นคลิปวีดีโอ ดูด้านล่างได้เลยครับ

ใน SALES GALLERY ตกแต่งเหมือน lobby ของโครงการ โดยมีป้ายชื่อโดดเด่น สีขาวชมพู ตัดฉากหลังสีน้ำเงินคอยต้อนรับซึ่ง 3 สีนี้เป็นสีหลักของอาคาร

ผสมต้นไม้กับกระจกบานสูงเข้าไปก็กลมกล่อม SUSTAINABLE

   

 

ห้อง B2

พื้นที่ชั้นล่างตามโฉนด 32.5 ตารางเมตร เป็นแบบ 2 BED 1 BATH เน้นพื้นที่ใช้สอย  แต่ยังคงไว้ซึ่งความแกรนด์ของห้อง HYBRID ด้วย VOID ขนาดใหญ่กลางห้อง // ชั้นลอยเป็นห้องนอน 2 ห้อง แบ่งเป็น 2 ฟากออกจากกันเชื่อมต่อด้วยสะพานทางเดิน // แม้จะเป็น 2 ห้องนอนแต่ได้แอร์ถึง 4 เครื่อง

ห้องหน้ากว้างประมาณ 3.7 เมตร

มุมมองแรกเมื่อเข้าห้อง ด้านขวาเป็นครัว ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ ( ถ้าห้องจริงบางห้องจะสลับซ้ายขวา mirror กัน ถนัดแบบไหนก็เลือกซื้อให้ตามที่ชอบนะครับ ดูแปลนดีๆจะเขียนว่า B2M)

พ้นโซนหน้าห้องที่เพดานเตี้ย มาเจอส่วนเพดานสูงกลางห้อง ซึ่งออกแบบไว้เป็นที่วางโต๊ะกินข้าว

สุดปลายห้องเป็นชุดโซฟาก่อนออกไปที่ระเบียง โดยมีชั้นลอยเป็นห้องนอนติดอากาศ ไม่เหมือนห้อง HYBRID ทั่วไปที่จะเป็น VOID

แอร์แขวนติดตั้งบนชุด TV เป่าลมเข้าหาโซฟา

ชุดโซฟาอยู่ตรงนี้ซึ่งเพดานค่อนข้างเตี้ย ให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่ไม่แกรนด์เหมือนห้องแบบที่เพดานสูงๆ และน่าจะอึดอัดสำหรับใครที่สูงเกิน 185 เซนติเมตร ( ผมสูง 179 เซน ก็เริ่มรู้สึกนิดๆละ)

ติดกับชุดโซฟาคือระเบียงแบบก้าวข้ามธรณีประตู  เพดานจะเท่าๆกับตรงห้องนั่งเล่น // แอร์เป่าออก และไม่มีกริลล์ปิดบังสายตาที่ด้านในระเบียง

อีกด้านของระเบียงมีชุดท่อระบายน้ำและก๊อกสนามติดตั้งไว้ให้ด้วย เผื่อซักล้าง

ยกธรณีประตูไม่ได้ลดระดับ

มองจากด้านนอกจะเห็นได้ว่ายูนิตนี้แบ่งครึ่งความสูง ด้านล่างคือระเบียงด้านบนเป็นห้องนอน

กลับเข้าไปด้านในห้องกันครับ มองย้อนไปหน้าห้อง ช่วงกลางห้องเป็นโต๊ะกินข้าวและชั้นเก็บของ รวมถึงบันไดขึ้นชั้นลอย

ปรับภาพมุมกว้างให้เห็นชัดๆ

ใต้บันไดมีห้องเก็บของ และด้านในออกแบบให้ติดตั้งเครื่องซักผ้าซ่อนไว้ในนี้

พอมี SPACE เหลือให้วางของอื่น แต่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่

บานประตูห้องเก็บของมีเจาะช่องระบายอากาศไว้ด้วยครับ เผื่อระบายความร้อนจากเครื่องซักผ้าที่มีอบในตัว

หน้าทางเข้าห้องเป็นชุดครัวกับห้องน้ำ

ชุดครัวสีออกขาวสบายตา

เมื่อรวมชุดครัวกับตู้รองเท้าตู้เก็บของหน้าประตู  ทำให้มีที่ว่างเก็บอะไรๆได้พอสมควร

MEX 2 หัว ใต้เตาเป็นที่ใส่อุปกรณ์การกิน

 ผมขอบลิ้นชักแนวตั้งอันนี้ครับ น่าจะเป็นถังขยะนะ

กล่องไฟอยู่ที่กึ่งกลางตู้รองเท้า ติดตั้งในความสูงที่ใช้งานง่ายแต่เป็นระเบียบดูดี

TOP หินสังเคราะห์ไร้รอยต่อ

ห้องน้ำเลือกใช้กระบื้องโทนสีอ่อน  มีอ่างล้างหน้าตรงกลางและแยกห้องอาบน้ำกับโถสุขภัณฑ์ออกจากกันคนละฟากฝั่ง ปิดกั้นด้วยบานกระจกนิรภัยทั้ง 2 ห้อง

ใช้การก่อธรณีประตูกันน้ำไหลออกจากโซนเปียกมาด้านนอก

สุขภัณฑ์แบบแขวนลอย ซ่อนหม้อน้ำในผนังแบรนด์ AMERICAN STANDARD

ห้องอาบน้ำมีชุด Rain Shower

มีเจาะผนังเพื่อวางชั้นวางของด้วยครับ ดูพรีเมียมไม่ใช่น้อย

แม้จะเป็นส่วนแห้ง แต่ที่ใต้ตู้อ่างล้างหน้าก็มีท่อเดรนน้ำรอไว้เรียบร้อย

 

ได้เวลาขึ้นชั้นบนละครับ

รอยต่อระหว่างโซนครัวกับโซนด้านใน ปิดจบระหว่างกระเบื้องกับพื้นไม้ด้วยเส้นสเตนเลส

ชั้นล่างนอกจากจะมีแอร์ที่โซนดู TV แล้ว ยังมีอีกเครื่องที่ ตำแหน่ง VOID ด้วยครับ โดยเป่าลมเข้าหาที่วางโต๊ะรับประทานอาหาร

บันไดขึ้นชั้นลอย

    

ความชันกำลังดีครับ ไม่ได้เดินยากเหมือนบางโครงการ

มองจากกลางบันไดจะเห็นทางเดินเชื่อมระหว่างห้องนอนทั้งสอง

ราวบันไดโครงเหล็กทาสีดำ ราวจับเป็นไม้สีใกล้เคียงกับสีพื้น

ห้องนอนแรกอยู่หน้าบันได เป็นห้องนอนด้านในที่อยู่เหนือตำแหน่งครัวและห้องน้ำ มีกระจกหน้าต่างที่เปิดไม่ได้ ให้มองวิวในห้องได้

ในห้องมีแอร์แขวนเป่าลมออกมาหน้าประตูทางเข้าห้องนอน

หน้าต่างในห้องเป็นบานตายมองออกไปที่ LIVING  // ถ้าปิดประตูเข้าห้อง จะทำให้ห้องนอนนี้เป็นห้องนอนจริงๆ ตัดขาดจากภายนอก ซึ่งเป็นส่วนตัวมากๆและประหยัดแอร์กว่า ไม่เหมือนห้อง LOFT สมัยก่อนที่จะเน้นทำเป็นแค่ชั้นลอย แล้วเปิดอากาศเชื่อมต่อกันหมด

 ในห้องตัวอย่าง เน้นติดกระจกกรุผนัง ทำให้ช่วยให้ห้องดูใหญ่กว่าห้องเดิมๆที่จะได้รับมอบจากโครงการ

เดินข้ามทางที่ให้อารมณ์สะพานข้ามฟาก ไปสู่ห้องนอนอีกห้อง

ซึ่งเป็นห้องนอนที่ได้ทั้งกระจกบานใสด้านในและหน้าต่างเปิดรับวิวด้านนอก

เฟรมสีขาวแบบสั่งพิเศษเป็นหน้าต่างแบบเลื่อนเปิด

ติดตั้งแอร์แบบเป่าลมเข้าหาเตียง แบบเหลื่อมๆไม่ได้ตรงกับหัวนอนเป๊ะๆ

ชุดโต๊ะแต่งตัวและตู้เสื้อผ้าไร้บาน (ห้องส่งมอบจริงไม่มีนะครับ)

เพราะเพดานห้องชั้นลอยสูง 2 เมตรนิดๆ ทำให้ชุดหน้าต่างดูแล้วบานใหญ่มากๆ

เฟรมสีขาว ให้สัมผัสสากๆมือ  // แม้จะเป็นบานเลื่อน แต่ก็เป็นเฟรมระดับพรีเมียม

ภาพนี้ถ่ายให้ดูความสูงของห้องนอนครับ ผมสูง 179 เซนติเมตร  เหลือพื้นที่เหนือศรีษะประมาณนี้

มองจากกระจกใสในห้องนอน ออกไปด้านในห้อง จะเห็นว่ากระจกตรงกับอีกห้องนอนพอดีๆ

มองมุมก้มเห็นโซน  living ชั้นล่างและเครื่องแอร์

ทางเดินเชื่อม 2 ห้องนอนเข้าด้วยกันนี่ให้อารมณ์เดินบนสะพานจริงๆนะครับ แปลกดี

เพดาน 4.3 เมตร

ห้องขนาดนี้ ทำชั้นลอยแยกห้องนอนได้ 2 ห้องแบบนี้ ขอชมว่าออกแบบดีสุดๆเลยครับ

จากสะพานเชื่อมมองลงไปที่ VOID

ลงมาด้านล่างแล้วมองไปที่ส่วน VOID กลางห้อง 

มองขึ้นบนเพดาน 4.3 เมตร // ที่ CULTURE CHULA เป็นการแต่งห้องเพดานสูงแบบทันสมัย ไม่มีแชนเดอเรียมาแขวนผมชอบนะ ดูโปร่งโล่งดี

 คำเตือน บันไดและชั้นลอยดำเนินการโดยบุคคลภายนอก ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่แถมให้เท่านั้น !!!!!

BYE BYE ห้องแรกด้วยน้อง BEAR BRICK สุดหล่อตัวนี้ // ห้องนี้เป็นแบบที่ได้รับความนิยมมาก เพราะได้ถึง 2 ห้องนอน ในราคาประมาณ 9.9-11.xx ล้าน  จัดว่าคุ้ม !!!!!

ห้องตัวอย่าง A1 ขนาดพื้นที่ชั้นล่างตามโฉนด 25 ตารางเมตร

1 BED 1 BATH

เป็นห้อง HYBRID ที่เป็น HYBRID แบบที่คุ้นเคย คือมี VOID ขนาดใหญ่อยู่ด้านในห้องติดกับหน้าต่างและระเบียง โดยมีส่วนห้องนอนอยู่ตำแหน่งเหนือประตูเข้ายูนิต  ได้หน้าต่างสูง 4 เมตรกว่าๆ เหมาะกับคนชอบความสูงสะใจของเพดานห้อง

ห้องตัวอย่างตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ PACKAGE ของ ASCOTT ในชั้นพิเศษ เผื่อใครอยากซื้อไปปล่อยเช่าจะได้เฟอร์รูปแบบเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ระดับโลกไปด้วยเลย ไม่ต้องเสียเวลาแต่งเอง

ห้องแบบ A จะหน้ากว้าง 3.25 เมตร (แคบกว่าแบบ B ประมาณ 50 เซนติเมตร)

มุมมองแรกเมื่อเปิดประตูเข้ายูนิต

ชุดครัวและห้องน้ำอยู่ด้านหน้า ซึ่งเป็นช่วงเพดานไม่สูงใต้ห้องนอนชั้นลอย สิ่งที่ต่างจากห้องแรกคือการที่ VOID อยู่ติดหน้าต่าง ทำให้สุดสายตาเหมือนมีความพรีเมียมด้าน VOLUME รอเราอยู่

ภายในห้องน้ำ ด้วยขนาดของห้องที่เล็กกว่าห้องแรก ทำให้ไม่ได้แยกห้องสุขภัณฑ์ออกไป แต่ตั้งฉากอยู่ด้านข้างอ่างล้างหน้า

SPEC คือโถแขวนผนังแบรนด์ AMERICAN STANDARD  หม้อน้ำซ่อนปุ่มกดอยู่ด้านบน // อ่างล้างหน้าหล่อเป็นชิ้นเดียวกับตู้ตามแบบสมัยนิยม  แต่ผมไม่ค่อยเห็นคอนโดระดับตารางเมตรละสองแสนขึ้นไปใช้แบบนี้นะ

ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า

ห้องอาบน้ำใช้การก่อธรณีประตูกันน้ำไหลออก    

พร้อมชุดฝักบัว RAIN SHOWER ซึ่งห้อง TYPE นี้ไม่มีเจาะช่องกำแพงไว้เก็บของแต่ทำชั้นวางยื่นออกมาแทน

ชุดครัวตรงข้ามห้องน้ำเหมือนกัน TYPE B แต่ตู้ข้างประตูบานล่างจะไม่เหมือนโดยจะไม่ใช่ตู้เก็บรองเท้าแล้ว

ชุดครัวสีโทนขาวสวยงาม

เปิดเก็บของได้มาก // ตู้ข้างประตูด้านล่างจะเปลี่ยนจากชั้นวางรองเท้าเป็นที่แขวนร่มแทน

ชอบที่เก็บถังขยะโครงการนี้จังครับ 

ภายในตู้แขวนร่มก็ได้แขวนกุญแจก็ดี ซึ่งชั้นวางรองเท้าที่หายไปนั้นถูกย้ายเข้าไปอยู่ด้านใน

เข้าสู่โซนด้านในกันครับ ซึ่งรอยต่อระหว่างพื้นทั้งสองโซนยังมีคิ้วสเตนเลสเดินไว้เช่นกัน

ตู้เครื่องซักผ้าและเก็บของใต้บันไดอยู่ข้างตู้เย็น เรียงตำแหน่งต่อเนื่องกับชุดครัว // เจาะช่องระบายอากาศที่ด้านล่างไว้แล้ว

บานเปิด 3 บาน // ที่เพิ่มมาหนึ่งบานคือชั้นวางของ ที่จะไว้วางรองเท้าก็ได้ ย้ายจากด้านหน้าเอามาไว้ตรงนี้

มีหลอดไฟ // ปูพื้นด้วยกระเบื้อง  

SPACE ที่เหลือพอจะวางของได้แต่เข้าออกค่อนข้างลำบาก ที่เหมาะที่สุดคือไว้วางไม้ดูดฝุ่นไม้ถูพื้น

ห้อง TYPE นี้ รู้สึกได้ถึงความเพดานสูงแบบเต็มๆ FEEL so gooddddddddddddddd

แอร์แขวนผนังเป่าเข้าโซฟาด้านข้าง การติดไว้ค่อนข้างสูงทำให้กระจายลมได้ไกลกว่า

ระยะดู TV กำลังดีที่สำคัญเพดานสูงโปร่ง ซึ่งผมชอบห้องแบบนี้เป็นการส่วนตัว

ชุดหน้าต่างบานสูง 4 เมตรกว่าๆเปิดรับวิวเต็มๆ

4.3 เมตร !!!!!!!

โต๊ะโซฟาหน้า TV

ชุดวาง TV  วางติดกับบันได

ระเบียงและพื้นด้านใน กั้นน้ำเข้าด้วยธรณี

ห้องนี้ของจริงคือโดนใจผมมากๆ แต่เพื่อนที่มาดูด้วยกันบอกว่าชอบอีกแบบมากกว่า

ระเบียงสูง 4.3 เมตร เลยสามารถดันคอมแอร์ขึ้นไปไว้สูงๆ เปิดพื้นที่ระเบียงให้ใช้สอยได้เต็มที่  ห้องนี้เลยมีเก้าอี้วางไว้นั่งชิลล์ได้ครับ ซึ่งไอเทมนี้ต้องมีเลยนะถ้าจะปล่อยเช่าให้ฝรั่ง

HEAD ROOM เหลือๆ

อีกด้านเป็นที่ติดโคมไฟ // ห้องTYPE นี้ไม่มีก๊อกน้ำด้านนอกให้ ?

มองจากด้านนอก

ชอบความสูงของหน้าต่าง นี่สิครับห้อง HYBRID

ธรณีระเบียง

มองไปที่หน้าประตู เรียบหรูสะอาดตา

ปรับเป็นเลนส์ WIDE ให้เห็นภาพรวมของห้อง // หน้ากว้าง 3.25 เมตรถ้าได้ความสูงมาช่วยก็ทำให้ดูดีพรีเมียมได้

การที่บันไดอยู่ติดโต๊ะ TV  ถ้าใครซื้อห้องแบบไม่มเฟอร์คงต้องสั่ง BUILT หรือใช้ความพยายามตามหาเฟอร์ขนาดที่วางได้พอดีมากกว่าห้องอื่น

เก็บงานบัวที่รอยต่อรอบบันไดเรียบร้อย

ชุดโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง

วางติดกระจกใสเชื่อมต่อวิวด้านนอกผ่านระเบียง

ห้องนี้ฟังก์ชั่นการใช้สอยลงตัวอ่ะ แถมแต่งด้วย ASCOTT  ทำให้ดูเหมือนโรงแรมเลยครับ

การนั่งพักผ่อนที่โซฟาแล้วมองขึ้นไปบนเพดานสูงๆมี SPACE เหนือหัวมากๆนี่มันสุดยอดจริงๆครับ ผมอยู่ห้องแบบนี้มาตลอดหลายปีหลังขอเชียร์สุดๆ

ถ้าใครได้ไปดูห้องนี้ ผมแนะนำให้เอนหลังแล้วมองขึ้นไปที่เพดานครับ ถ้าคุณเป็นคนชอบ SPACE ไม่ผิดหวังแน่นอน 

เข้าสู่ชั้นลอย

มองย้อนไปดูส่วน living โอ๊ยยยชอบครับ

ถ้าผมอยู่ห้องนี้มุมนี้เป็นผมจะใช้เป็นที่นั่งห้อยขาอ่านหนังสือ

ห้องนอนชั้นลอย ประตูตรงกับบันได ไว้เตียง 6 ฟุต เหลือๆ

แอร์เป่าเข้าด้านข้างเตียงแบบนี้แหละถูกสุขลักษณะ

Built ตู้มาเต็มผนัง เป็นบานเลื่อน 3 บานโดยบานกลางเป็นกระจกเงา  ดู HEADROOM เหนือหัวผมได้ครับผมสูง 179 เซนติเมตร  ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด 

มีตู้เซฟให้พร้อม รองรับบริการทำความสะอาดห้องจาก ASCOTT

วางโต๊ะทำงานไว้ที่ผนังกระจกใส

มองจากบนเตียงคือมุมมองนี้ ถ้าซื้อชั้นสูงวิวสวยนะรู้สึกดีกับชีวิตทุกเช้าแน่ๆ

 

มุมมองจากโต๊ะทำงานคือสวยเลยครับ

หัวเตียงสวยใช้ได้

สวิชไฟสวยๆอยู่ข้างประตูห้อง  

จบงานกระจกเนียนๆ

  

ขอย้ำอีกทีว่าชั้นบนเป็นเฟอร์นิเจอร์ครับ และดำเนินการโดยบุคคลภายนอก

วิเคราะห์แปลน

คอนโดวางห้องส่วนใหญ่ไปในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ กับตะวันตกเฉียงใต้ และมีห้องบางส่วนหันทิศเหนือ แทบไม่มีห้องไหนโดนบล็อกวิวโดยถ้าดูจากภาพด้านล่างจะเห็นว่าตัวอาคารบิดองศาหลบทุกมุมบล็อกได้

กลุ่มอาคารหลังคาสีแดงไม่ใช่วัดนะครับ คือส่วนรีเทลของโรงแรม

วิวทิศต่างๆประมาณนี้ชอบฝั่งไหนก็เล็งๆกันดูครับ

เขียนบรรยายให้เห็นชัดๆกันไปเลย วิวด้านไหนเป็นด้านไหน

คอนโดนี้มีรูปร่างอาคารประมาณนี้ครับ โดยชั้นพักอาศัย  7-16 จะเป็นขนาดเดียวกัน เป็นแท่งขึ้นมาแล้วค่อยๆลดระดับเป็นขั้นบันไดในชั้น 18 จนถึงยอดอาคาร และตั้งแต่ชั้น 26 ขึ้นไปนอกจากจะลดระดับอาคารฝั่งสุรวงศ์แล้วยังลดระดับที่ฝั่งพระราม 4 ด้วย  (ผู้ออกแบบอย่าง ATOM ต้องวางกรอบอาคารตามเส้น SETBACK ความสูง)

MASTER PLAN ชั้น 1  รถเข้าได้ที่พระราม 4 แต่คนเข้าได้ที่สุรวงศ์ด้วย

ภาพรวมของชั้นพักอาศัย

ที่นี่มีลิฟท์ 4+1  ตัว  ต่อชั้นมีจำนวนยูนิตสูงสุด 32 ยูนิต น้อยสุด 9 ยูนิต ระยะทางเดินจากลิฟท์ไปห้องที่ไกลที่สุดประมาณ 40 เมตรเท่านั้น ห้องขยะซ่อนหลบไว้หน้าลิฟท์เซอร์วิส

ห้องส่วนใหญ่เป็นห้องเล็ก TYPE A  ห้องใหญ่ๆมีไม่มาก

ห้อง TYPE A  ขนาดตามโฉนด 25 ตารางเมตร จะอยู่ที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ หันหน้าไปทางวิวสีลม และมี 4 ห้องอยู่ตะวันตกเฉียงเหนือหันไปดูวิวจุฬา รวมพื้นที่บนล่างแล้วได้ราวๆ 36 ตารางเมตร ควรระวังห้องเบอร์ 17,18 เพราะอยู่หน้าห้องเก็บขยะ (ซึ่งส่วนตัวผมโอเคกับห้องแบบนี้นะ ใกล้ดี) และห้องเบอร์ 19 ที่ตรงกับโถงลิฟท์พอดี

ห้อง TYPE B  ขนาด 32.5 – 33ตารางเมตร จะอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือหันไปโรงพยาบาลจุฬาและสวนลุม ซึ่งวิวนี้จะได้รับเสียงชื่นชมมากกว่า  ใครอยากอยู่ด้านนี้เลยต้องอยู่ห้องใหญ่จ่ายแพงกว่าอีกด้าน ต้องระวังห้องเบอร์ 01 กับ 02 เนื่องจากมุมมองค่อนข้างจะบีบจากปีกอาคารตัวเอง

ส่วนห้องมุมทั้ง 5 เป็นห้องใหญ่และห้องแบบพิเศษ ได้หน้าต่าง 2 ทิศ

ชั้น 7 เป็นชั้นที่มีสวนส่วนกลาง ซึ่งชั้นนี้ขายหมด SOLD OUT ในรอบ online ไปแล้วอย่างรวดเร็ว มีห้องที่ชั้นนี้ 31 ห้อง น้อยกว่าชั้นทั่วไปหนึ่งห้อง เพราะว่าห้องเบอร์ 31 ของชั้นนี้  ยุบรวมกับห้องเบอร์ 32 และต้องเฉือนส่วนด้านหน้าเป็นทางออกไปที่สวนส่วนกลาง  ทำให้ห้องนี้เป็นห้องหน้าสวนแบบ RARE UNIT  มีขนาด 58.5 ตารางเมตร

ชั้น 8-16 มีชั้นละ 32 ห้อง   ห้อง 1 BED พิเศษตำแหน่ง 32  มีพื้นที่ 35 ตารางเมตร แปลกกว่าใครในชั้นด้วยโถง FOYER เพิ่มพิเศษก่อนจะหักศอกเพื่อเข้าสู่พื้นที่ห้อง

ชั้น 17  มี 32 ห้องเช่นกันแต่ห้อง 09 จะแตกต่าง โดยเสาในห้องหายไปกลายเป็นกระจก

ชั้น 18 – 25 จะเริ่มลดขนาด floor plate ไปทีละนิดโดยมีสวนแทรกเข้ามาที่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ในทุกๆชั้น ห้องพักอาศัยจะน้อยลงเรื่อยๆ  ทำให้ห้องมุมด้านสวนของแต่ละชั้นจะแปลกไม่เหมือนใคร ได้ทั้งเป็นห้องติดสวนและได้แปลนที่เป็นเอกลักษณ์ แถมได้หน้าต่าง 2 ด้านด้วย  ถ้าใครงบถึงและชอบความยูนีค รีบหาซื้อมาครอบครองกันนะครับ

ชั้น 26 – 29 เป็นชั้นที่พรีเมียมขึ้นมาอีก นอกจากห้องจะลดลงเรื่อยๆ นอกจากจะมีสวนด้านตะวันออกเฉียงใต้ ยังเพิ่มสวนชั้นตะวันตกเฉียงเหนือด้วยครับ  ทำให้ห้องแปลนแปลกเพิ่มขั้นมา ซึ่งห้องติดสวนฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือนั้น มีรูปห้องเป็นแบบหลายเหลี่ยมสวยแปลกน่าสนใจมากๆ

ชั้น 27 นี้เป็นชั้นที่มีสวนชั้นเดียวที่มีห้อง  3 BEDROOM   เป็นห้อง SUPER RARE ของตึกนี้ และเป็นห้อง 3 BED ห้องเดียวที่ได้วิวชั้นสูง เพราะห้อง 3 BED ชั้นอื่นสูงสุดอยู่ที่ชั้น 17

ชั้น 28 คือชั้นที่อัตราสวนต่อห้องพักเยอะสุดแล้วครับ ใครชอบอยู่สูงๆแบบใกล้ชิดธรรมชาติ จัดไป !!!!

** ชั้นนี้ห้อง 31 ไม่มีหน้าต่างติดอากาศเลยนะครับ ติดสวนทั้งหมด

 

** อย่างที่บอกตอนต้น ว่าที่นี่สวนเป็นขั้นบันไดแทรกไปในแต่ละชั้น ทำให้เวลาผู้พักอาศัยไปยืนที่สวน ไม่ว่าจะมองขี้นหรือมองลง ก็จะได้ความเขียวที่แปลกตา เหมือนอยู่บนเนินเขาที่ต้นไม้เยอะๆ

 

UNIT PLAN  (สอบถามพื้นที่ชั้นบนกับน้องเซลล์กันเองนะครับเพื่อความชัวร์)

ห้องแบบ A จุดเด่นคือส่วน VOID ติดอากาศ

ห้อง A1W ได้หน้าต่างบานใหญ่สูง 4 เมตรกว่า เพิ่มขึ้นมาอีกด้าน พรีเมียมมมม

TYPE  A3 มีชั้นละห้อง เป็นห้องที่มีห้องน้ำบิดองศาจากห้องอื่น 90 องศา เพิ่มพื้นที่ใช้สอยด้านใน

A3W ยิ่งสุดยอด นอกจากได้หน้าต่าง 4 เมตรกว่าที่ living เพิ่มมาอีกบานอีกทิศ ยังได้หน้าต่างเพิ่มที่ห้องนอนชั้นบนด้วย

A2 จะกลับกันคือมี VOID อยู่ด้านหน้าห้อง ด้านในเป็นส่วน 2 ชั้น ได้ส่วนห้อง PLUS เพิ่มมา มีเพียงชั้นละ 2 ห้อง

B1 แบบห้อง PLUS

*** วันที่ 27/10/65  ทางอนันดาประกาศปรับผังห้อง B1 , B1-1 ใหม่ ให้เป็น 2 BEDROOM เพิ่มพื้นที่มากขึ้น ตามแปลนด้านล่าง

 

B2 แบบ 2 BED ตามห้องตัวอย่าง

B2W  ได้หน้าต่างอีกด้านเพิ่มมาครับ โดยบานที่living เป็นตำแหน่ง void ทำให้เป็นหน้าต่างบานสูง 4 เมตรกว่า

B2.1 Wและ 2.2 W เหมือน B2W แต่หน้าต่างบานสูงใหญ่ขึ้น

C1 แปลนสวย หน้ากว้าง น่าอยู่สุดๆ  // เป็นห้อง 2 BED 2 BATH มีห้องน้ำที่ชั้นลอยด้วยครับ

ห้องใหญ่แบบ D ขึ้นไป นอกจากจะ 2 BED 2 BATH ยังได้เพิ่มอีก 1 ห้องน้ำเล็กไม่มีที่อาบน้ำ (เรียกกันว่า powder room)

ที่คอนโด culture นี้ ห้องใหญ่จะเป็นห้อง HYBRID ในอุดมคติ คือ VOID ใหญ่ติดอากาศและมีห้องนอน master เพดานสูง แถมมีห้องน้ำที่บนชั้นลอย

แบบ H คือ 3 BED 2+1 BATH

ที่นี่ HOT มาก กระแสดีมาก เปิดรอบ ONLINE ขายหมดอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ราคาต่อตารางเมตรค่อนข้างสูง

ผมแคปภาพมาจากช่วงแรกๆที่ยังไม่หมด ให้ดูโครงสร้างการตั้งราคาและให้ดูว่าห้องไหนขายไปก่อนเป็นตัวเลือกแรกๆของนักลงทุน

ชั้น 7

 

ชั้น 13

สรุป

 

CULTURE CHULA ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท เน้นขายความพรีเมียม

ถ้าจะลงทุนทำเลนี้ต้องแล้วแต่ชอบและงบประมาณเลยครับ  เมื่อศึกษาจาก ASHTON CHULA ที่อยู่ข้างๆกัน ห้องที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายเปลี่ยนมือในช่วงแรกๆ จะเป็นห้องเล็กและห้องใหญ่ไปเลย มากกว่าห้องขนาดกลางๆ แปลนห้องแปลนอาคารก็หลากหลาย  ถ้าไม่ได้จองรอบ ONLINE ที่ราคาดีสุดๆรอไปจองชั้นอื่นห้องแบบอื่นที่ถูกใจกว่าก็ไม่เสียหายอะไร  รีบไปสำนักงานขาย หรือรอไปงานอนันดาที่พารากอน

การใช้ชื่อจุฬา ผมว่าได้และเหมาะสมเพราะข้ามถนนพระราม 4 ไปก็คือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬา  (โครงการอื่นห่างออกไปจากจุฬา 500 เมตร ยังมีใช้ชื่อว่าจุฬาเลยครับแหม๊ !!!)

ราคาห้องต่อตารางเมตรถือว่าโดดกว่าโครงการอื่น  แต่ด้วยทำเลที่เป็นระดับ TOP และรูปแบบห้องเพดานสูง ทำให้หลายๆๆๆคนยอมจ่ายเพื่อความพรีเมียมนี้  ซึ่งคนที่สนใจหลายๆคนเข้าใจผิดว่าโครงการนี้เป็น LEASE HOLD ด้วยซ้ำเพราะโครงการใหม่ทั้ง DUSIT และ ONE BANGKOK เป็นลีสโฮลด์ทั้งหมด เลยนึกว่า CULTURE จะเป็นด้วย

ใครกำลังมองหาคอนโด FREE HOLD ทำเล สามย่าน-สีลม และชอบห้องเพดานสูงงงง  “ถ้างบถึง”ที่นี่คือสิ่งที่ใช่ คือคอนโดที่จะได้รับความนิยมมากๆเมื่อตึกเสร็จอย่างแน่นอน  ดีใจด้วยกับคนที่ได้ห้องแล้วนะครับ ส่วนผมบารมีไม่ถึงห้องที่จิ้ม 3 ห้องมีคนคว้าไปแล้ว T-T ไว้ไปรอลุ้นรอบพารากอนดีกว่า

ตึกออกแบบโดยคุณปอย ATOM คนออกแบบ ASHTON CHULA ที่อยู่ข้างๆ มั่นใจได้ว่าสวยและกลมกลืน เป็นโทน BLACK&WHITE แตกต่างแต่ลงตัว

ที่นี่ยังมีบริการจากแบรนด์ระดับโลกอย่าง ASCOTT  รวมถึงคอนเซปต์การใช้ชีวิตร่วมกันแบบยั่งยืน 24 ชั่วโมงที่ร่วมสร้างโดย SCRATCH FIRST ทำให้น่าติดตามมากๆว่าของจริงจะเป็นแบบไหน

โครงการนี้ผ่าน EIA แล้ว คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2568

 

ปิดท้ายบทความด้วยข้อมูลน่าสนใจ

MODEL อาคารแบบไม่ FINAL เค้าว่าตรง 98%

ภาพสถานที่ก่อสร้างจริง

มองไปฝั่งถนนสุรวงศ์

มองไปฝั่งพระราม 4

ความสูงของอาคารในชั้นต่างๆ เอาไว้เล็งวิวกันครับ ข้อมูลจาก EIA

วิวจากระดับความสูงต่างๆ

 

รูปที่ดินจากโฉนด

 

แปะคลิปพาชมห้องตัวอย่างให้ดูอีกที ฝากเข้าไปกด subscribe ช่องผมด้วยน้าาาาาาา

ขอบคุณที่อ่านจนจบ ขอบคุณมากๆครับ

ผู้สนใจลงทะเบียนได้ที่ https://anan.ly/3dJa9kq